“CAN SLIM" เย้ๆๆ - TopicsExpress



          

“CAN SLIM" เย้ๆๆ นักลงทุนจะผอมเพรียว หุ่นดีกันแล้วว จริงๆ แล้วคำว่า CAN SLIMไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของการลดน้ำหนักแต่อย่างใด หากแต่เป็นกลยุทธ์ในการคัดเลือกหุ้นที่เน้นการค้นหาหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง ( High-Growth Stocks ) และมีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปของ Capital Gain โดยใช้การวิเคราะห์ทั้งทางด้านปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิคมาประกอบกัน แนวคิดนี้ได้รับการนำเสนอในหนังสือ How to Make Money in Stocks: A Winning System in Good Times and Bad เขียนโดยWilliam J. O’Neil (ลองไปหามาอ่านดูดีมั่กๆ คอนเฟริ์ม) การคัดเลือกหุ้นโดยใช้กลยุทธ์ CAN SLIM ประกอบด้วยหลักการ 7 ข้อ ดังนี้ 1. C หมายถึง Current Earnings โดยผลกำไรสามไตรมาสล่าสุดควรมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 18 – 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า 2. A หมายถึง Annual Earnings ทั้งนี้อัตราการเติบโตของกำไรในรอบ 5 ปีหลังสุดควรจะอยู่ที่ 25% เป็นอย่างน้อย 3. N หมายถึง New กล่าวคือ บริษัทควรจะมีปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของผลกำไรของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ใหม่ ตลาดใหม่ หรือเทคโนโลยีการผลิตใหม่ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เกิดจุดสูงสุดใหม่ของราคาหุ้น 4. S หมายถึง Supply and Demand ในที่นี้หมายถึงปริมาณอุปทานและอุปสงค์ของหุ้นที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาด โดยแนวคิดนี้เชื่อว่า ราคาหุ้นของบริษัทขนาดเล็กซึ่งมีปริมาณหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดน้อยกว่าย่อมมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่าราคาหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งมีปริมาณหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดมากกว่า 5. L หมายถึง Leader or Laggard คือเลือกลงทุนในหุ้นที่เป็นผู้นำหรือมีความเข้มแข็งในอันดับต้นๆ เท่านั้น และหลีกเลี่ยงหุ้นที่เป็นผู้ตาม 6. I หมายถึง Institutional Support โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีนักลงทุนสถาบันอย่างน้อย 3 – 10 รายเป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งนักลงทุนสถาบันนั้นก็ควรจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและมีผลงานการบริหารงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง 7. M หมายถึง Market Direction กล่าวคือ ควรหาจังหวะเข้าไปลงทุนในหุ้นที่ได้เลือกไว้ในช่วงที่เป็นตลาดขาขึ้น (Bull Market ) เท่านั้น ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าหุ้นที่จะได้จากการคัดเลือกด้วยกลยุทธ์ CAN SLIM มีแนวโน้มที่จะเป็นหุ้นขนาดเล็ก มีอัตราการเติบโตสูง มีการเปลี่ยนแปลงของราคาได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งต้องอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคมาประกอบในการตัดสินใจ ดังนั้นกลยุทธ์นี้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ชอบความตื่นเต้น และยอมรับความเสี่ยงได้สูง นอกจากนี้ด้วยลักษณะของหุ้นดังกล่าวเรื่องของระเบียบวินัยในการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญ นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์นี้ควรจะมีการตั้ง Stop Loss และปฏิบัติตามแนวทางอย่างเคร่งครัด เพื่อจำกัดความเสียหายในกรณีที่มีความผิดพลาดในการลงทุนเกิดขึ้น
Posted on: Mon, 02 Sep 2013 07:41:34 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015