“สื่อ” ...อย่า “ตอแหล” - TopicsExpress



          

“สื่อ” ...อย่า “ตอแหล” กับประชาชน!!! วาทตะวัน สุพรรณเภษัช ผมเขียนบทความติดต่อกันทุกสัปดาห์ มายาวนานกว่าสิบปี ถ้าแนวคิดความคิดใด ที่แสดงเอาไว้ในข้อเขียน มีผู้คนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และนำแนวความคิดเหล่านั้น ไป “ต่อยอด” แล้วทำให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ผู้เขียนจะมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังรู้สึกภาคภูมิใจ ที่มีโอกาสทำประโยชน์กับบ้านเมืองในยามบั้นปลายของชีวิต การเขียนคอลัมน์การเมืองของผม ได้อาศัยทักษะในด้านการข่าวกรองที่ร่ำเรียนและทำงานด้านนี้มานาน ผสมผสานกับแนวทางสืบสวนสอบสวน ที่ตัวเองมีประสบการณ์ด้านนี้มาก รวมทั้งการเป็นครูบาอาจารย์วิชานี้ด้วย ทำให้การเขียนประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ไม่คลาดเคลื่อน และถูกต้องเสมอ ขอยกตัวอย่างเรื่อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวก ซึ่งผมเขียนล่วงหน้าตั้งแต่ ปี พ.ศ.2551 เกือบห้าปีก่อนหน้านี้ว่าในที่สุดแล้ว... จำลอง ศรีเมือง กบฏและผู้นำการก่อการร้าย....ต้องโดนนนนน?!? vattavan/detail.php?cont_id=112 หมายถึงการดำเนินคดีกับจำลองฯกับพวก จะต้องเกิดขึ้น อย่างแน่นอน! ในที่สุด ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมคาด คือ นายมหาห้าขันกับพวก ได้ถูกฟ้องร้องแล้วในคดี ก่อการร้าย ซึ่งศาลอาญาได้นัดสืบพยานครั้งแรก ในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2556 อีกไม่กี่วันข้างหน้านั่นเอง! สำหรับคดีก่อกบฎ อัยการนัดสั่งคดีจำลอง ศรีเมือง ในเวลาใกล้เคียงกัน หลังจากเลื่อนมานับสิบๆครั้ง กินเวลายาวนานหลายปี และนานที่สุดของการเป็น “โรคเลื่อน” ในประวัติศาสตร์ของการฟ้องร้องของพนักงานอัยการ แต่ถึงกระนั้น ผมเชื่อพันเปอร์เซ็นต์ว่า อัยการต้องสั่งฟ้องแน่! อีกเรื่องหนึ่ง ที่อยากให้ท่านผู้อ่านอาจสังเกตได้ คือ บางกรณีที่ผมได้ออกความเห็น แย้งกับสื่ออื่นๆทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสื่อเล็กสื่อใหญ่ ที่มีจำนวนมากมาย แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป กลายเป็นว่า ความเห็นที่ผมแสดงออกนั้นเป็นเรื่อง “ถูกต้อง” ที่เห็นได้ชัดเจน คือกรณี สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา! พิธีกรดังสรยุทธ์ฯ โดนโจมตีหนักหน่วง ถึงขั้นมีผู้ลงทุน ไปเช่าห้องประชุมของ ม.ท่าพระจันทร์ ซึ่งก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ โดยมีตัวละครเก่าๆ ที่ทำมาหารับประทานในวงการสื่อ เช่นเดียวกับ สรยุทธ์ฯ แต่ความดังเทียบชั้นกันไม่ได้เลย เช่น นาย เสรี วงศ์กระเทยทมิฬ นาย สนธิญาณ หนูเกือก ลูกกระโปรกคนโปรดของ นาย จิรายุ ณ ทรัพย์สิน ไปขึ้นเวที ระดมโจมตีสรยุทธ์ฯ อย่างสาดเสียเทเสีย โดยหวังไปไกลจะให้เกิดการ “แบน” โฆษกขวัญใจประชาชนให้ได้ นอกจากนั้น สรยุทธ์ฯ ยังถูกผู้ดำเนินรายการวิทยุ หลายสถานีอย่างคลื่น FM 101 และสื่อวิทยุคู่กรณีกับคุณสรยุทธ์ฯ คือ คลื่น FM 96.5 ของ อ.ส.ม.ท.ที่ผมหยามว่า เป็นองค์กรสื่อรัฐแท้ๆแต่ดันเสือกแปลงโฉม เป็นได้แค่ “เนชั่วสาขา 2” (ไอ้สื่อ “เนชั่ว” ต้นแบบ มันชั่วจริงๆ ผมเขียนด่ามันหลายครั้ง ไอ้สื่อเลวชาตินี่ ทั้งโกหกตอแหล เต้าข่าว เอาทุกรูปแบบ ล่าสุดก็ออกข่าวอัปรีย์ ว่า “เศรษฐา” เป็นสามีนายก “ยิ่งลักษณ์” มันช่างระยำสุดขั้วจริงๆ!) คลื่น FM 96.5 เรียกตัวเองโอ่อ่าว่า เป็น “คลื่นความคิด” แต่ผมเรียกมันว่า เป็นแค่ “คลื่นสิ้นคิด” เพราะนาย วิสุทธิ์ คมวัชรพงษ์ ผอ.สถานี ตั้งตนเป็นปฎิปักษ์กับรัฐบาลนายกฯปู จัดผู้ดำเนินรายการที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มาสุมกบาลกัน รุมฟาดฟันรัฐบาลนายกผู้หญิง แบบเอาเป็นเอาตาย ผมได้วิพากษ์วิจารณ์เอาหนักๆหลายครั้งหลายหน ตัวอย่างกรณี ไอ้ ดร.จีระ หงส์ลดารมย์ ผู้ดำเนินรายการคนหนึ่ง ที่ทะลึ่งไปวิจารณ์สรีระนายกฯปู จนเป็นเหตุให้ไอ้ด๊อกปากระยำตัวนี้ ถูกลดเวลาจัดรายการลงไป อย่างนี้เป็นต้น ตอนสรยุทธ์ฯ มีเรื่องฟ้องร้องกับอ.ส.ม.ท. ไอ้คลื่นระยำนี้ ยังแอบหยิกแอบกัดพิธีกรคนดังมาโดยตลอด ซึ่งผมได้รายงานให้ท่านผู้อ่านทราบแล้ว ผมมีโอกาสได้ตรวจสอบ พยานหลักฐานของคู่กรณี คือ อ.ส.ม.ท. ฝ่ายหนึ่ง และสรยุทธ์ฯอีกฝ่ายหนึ่ง ในฐานะที่เป็นทั้งอาจารย์และหัวหน้าพนักงานสอบสวนเก่าอย่างผม ฟันธงตูมลงไปว่า สรยุทธ์ฯ ไม่ผิดอย่างแน่นอน! นอกจากบอกว่า พิธีกรดังไม่ได้เป็นฝ่านผิดแล้ว ผมยังเขียนคอลัมน์ชื่อ “สรยุทธ” อย่ากลัว...สู้กับพวกแม่งงงง!!! ถึงสองตอน เพื่อเป็นการชีแจงให้ผู้อ่านเข้าใจ และยุให้สรยุทธ์ฯสู้เพื่อรักษาความถูกต้องเอาไว้ ในที่สุด ตุลาการเจ้าของสำนวน ในคดีที่คุณสรยุทธ์ฯ ฟ้อง อ.ส.ม.ท. ได้มีความเห็น ให้องค์กร “เนชั่ว สาขา 2” อย่าง อ.ส.ม.ท. กลับเป็นฝ่ายต้องชดใช้เงิน ให้โฆษกคนดังอีกหลายสิบล้านบาท สบายไป! พอเรื่องกลับตาลปัตร พวกไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลาย ที่เคยแห่แหนกันออกมา รุมเหยียบสรยุทธ์ฯ ต่างออกอาการเงียบสนิท ไม่พูดถึงอีกเลย ทำราวกับว่า ปฏิบัติการรุมกระทืบโฆษกมหาชน นั้น ไม่เคยเกิดขึ้นเลย...ดูพวกมันทำ! มาถึงวันนี้ สรยุทธ์ฯยังส่งแสงประกายเจิดจ้า ในวงการ ข่าวสาร หาเงินไปช่วยเหลือซื้อเครื่องมือแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลน เป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ได้รับการสรรเสริญไปทั่ว ทิ้งให้อีนังกะเทยกาลี กับไอ้พวกสื่อ ขี้อิจฉาทั้งหลาย จมปลักอยู่ในความอัปรีย์ ไม่มีคนเชื่อถืออีกต่อไป... สมน้ำหน้า...ไอ้พวกเวรนี่จริงๆ! ยังมีเรื่องที่ผมแสดงความเห็นไปเมื่อเร็วๆนี้ คือ ไม่เห็นด้วยกับการห้ามนำเข้าแร่ใยหิน (Asbestos) เพราะอ้างว่าแร่นี้มีอันตรายกับคนไทยเป็นอย่างมาก แต่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดว่า การที่ทางฝ่ายผู้รณรงค์ห้ามการนำเข้าแร่ชนิดนี้ และอ้างว่ามีคนตายทั้งหมด 3 คน เป็นใครอยู่ที่ไหน? ผลการชันสูตรพลิกศพผู้ตายเหล่านี้ มีรายละเอียดอย่างไร? ปรากฏว่า ผู้เคลื่อนไหวให้มีการห้ามนำเข้าแร่ชนิดนี้ กลับแสดงหลักฐานที่เป็นรูปธรรมไม่ได้เลย นอกจากหลักฐานลอกขี้ฟันฝรั่งมาทั้งนั้น นอกจากนั้น ยังมีหลักฐานทางการแพทย์ของไทยเอง ที่ออกมาให้ความเห็นตรงข้าม แตกต่างอย่างสุดขั้วอีกด้วย ผมเลยเขียนคอลัมน์ ทำนองแนะนำผู้ดำเนินรายการ คือ กรรณิการ์ “อาซิ้ม” กิจติเวชกุล ทีจัดรายการข่าวตอนเช้าตรู่ร่วมกับ สังกะมา “ป้าสัง” สารวัตร ทาง “คลื่นสิ้นคิด” FM 96.5 (ผมเรียกคู่หูวัยต่อนดึกนี้ ว่า “ซิ้มการ์กับป้าสัง”) ว่า ขออย่าไปสร้างภาพให้แร่นี้ มีความน่ากลัวเกินเหตุ ให้กับประชาชนคนฟังรายการวิทยุเลย ควรนำเรื่องที่เป็นผลร้ายกับคนไทย ที่เห็นได้ชัดๆ มาพูดกัน จะมีประโยชน์มากกว่า นั่นคือ เรื่องการกินของดิบ โดยเฉพาะปลาน้ำจืด โดยเฉพาะ “ก้อยปลา” ที่ปรุงด้วยปลาดิบๆ ซึ่งเป็นอาหารโปรดชาวอีสาน ซึ่งอุดมด้วยตัวพยาธินานาพันธ์ เมื่อบริโภคเข้าไปแล้ว สามารถไปเจริญเติบโต และฝังอยู่ในท้องมนุษย์ได้นานปี และเป็นสาเหตุสำคัญโรคพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งร้ายแรงมาก กระทรวงสาธารณะสุข แถลงว่า คนตายเพราะโรคพยาธิใบไม้ตับ ปีละ 28,000 คน (สองหมื่นแปดพันคน) เขียนไปไม่นานเท่าไหร่ ก็มีเหตุให้ดีใจ เมื่อวันจันทร์ ที่ 22 เมษายน 2556 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เขาพาดหัวข่าวว่า “ไมค์ ภิรมย์พร"บุกอีสาน-เหนือ ชวน "สุขทั่วหน้า กินปลาสุก" เนื้อข่าวเขาบรรยายว่า กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ดึง ไมค์ ภิรมย์พร เป็นพรีเซ็นเตอร์โครงการมหกรรมรณรงค์สัญจร “การกำจัดพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อน้ำดี” หลังพบประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือเสียชีวิตด้วยพยาธิอใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ชี้เหตุด้านสุขอนามัยและการกินปลาปรุงไม่สุก ซึ่งได้มีการแถลงข่าวไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางด้าน ไมค์ ภิรมย์พร ซึ่งเคยสูญเสียคุณพ่อไปเพราะมะเร็งท่อน้ำดี ได้ขอปวารณาตนร่วมรณรงค์ให้ชาวบ้านกินปลาสุก ร้อนและสะอาด เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพและปราศจากพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งไมค์ ทุ่มเทในการร่วมรณรงค์ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ไมค์ เผยว่า “ผมตั้งใจมากกับการเป็น 1 กระบอกเสียงในการรณรงค์ให้พี่น้องทุกท่านกินปลาสุก ผมเริ่มกลัวที่จะกินของดิบทั้งหลาย ผมเป็นคนอีสานก็จะคุ้นเคย กินอาหารที่ปรุงไม่สุก ไม่ว่า ปลาดิบ ปลาร้าดิบส้มตำ ส้มปลา ลาบ ก้อย เหมือนเป็นความเคยชิน และกินกันต่อเนื่องซึ่งมันแฝงมาพร้อมกับพยาธิ สะสมทำให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดี โรคพยาธิใบไม้ตับ ผมไม่อยากให้ทุกคนเป็นเหมือนอย่างพ่อที่ผมต้องสูญเสียท่านมาแล้ว” “ผมได้ร่วมกิจกรรมรณรงค์กับกระทรวงสาธารณสุข เดินสายไปพบพี่น้องที่ต่างจังหวัด และร้องเพลงขับกล่อมพี่น้องที่ จ.น่าน ในวันที่ 22 เมษายนนี้ วันที่ 26 เม.ย. ที่จังหวัดอุดรธานี และวันที่ 29 เม.ย. ที่ จ.ร้อยเอ็ด นอกจากนี้ผมยังได้ร้องเพลงประจำโครงการ ซึ่ง อ.วสุ ห้าวหาญ ได้แต่งเพลง ปลาร้าสุกสุข และปรับเนื้อร้องเพลงกินปลาสุกแซ่บหลาย โดยนักวิชาการ ดร.พาหุรัต ก็อยากให้พี่น้องญาติเพลงใส่ใจเรื่องสิ่งใกล้ตัวกินให้ถูกสุขลักษณะ สุขภาพจะได้แข็งแรงห่างไกลโรค สมกับคำพูดที่ว่า สุขทั่วหน้า กินปลาสุกกัน ทุกคนครับ” ผู้เขียนอย่าง “วาทตะวัน” หวังว่า การรณรงค์ของกระทรวงสาธารณสุขครั้งนี้ จะลดจำนวนคนตายลง ทั้งยังประหยัดเงินหลวงและเงินราษฎร์ ในการรักษาพยาบาลโรคอันตราย แต่ป้องกันได้ สำหรับรณรงค์ต่อต้านแร่ใยหิน ปรากฏว่าเมื่อวันพุธที่ 3 ก.ค.2556 ที่เพิ่งผ่านมานี้เอง ผมได้ยิน สังกะมา “ป้าสัง” สารวัตร ได้รายงานในรายการ “เสี้ยมข่าว-เช้าตรู่” ของเธอกับคู่หูดูโอ ว่า ทางราชการยังคงอนุญาต ให้มีการนำเข้าแร่ใยหินต่อไป เพราะไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า แร่ใยหินเป็นอันตราย ต่อสุขภาพประชาชน! ผมไม่ได้ดีอกดีใจว่า ความเห็นของตัวเองเรื่องแร่ใยหิน เป็นฝ่ายถูกต้อง และก็ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ กับพวก NGO อย่าง “อาซิ้ม” กรรณิการ์ กิจติเวชกุล แต่การทำงานข่าวกรองมานาน ทำให้ผมรู้จักบทบาท รวมทั้งสายระโยงระยางของพวก NGO ค่อนข้างดี และแม้ตัวเองไม่ได้อยู่ในวงการนี้แล้ว แต่หากต้องการรู้เรื่องลึกๆเกี่ยวกับ NGO เหล่านี้ บอกได้เลยว่า มือข่าวเก่าอย่างผู้เขียน ยังมีแหล่งข่าว ที่สามารถตรวจสอบข้อมูล ได้อย่าง… รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ! ดังนั้น หากพลพรรค NGO ใด ไม่ว่าจะเป็นพรรคพวก “ซิ้มการ์” หรือใครก็ตาม ทำงานแบบมีเบื้องหน้าเบื้องหลังไม่กระจ่างใส หรือเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือทับซ้อน หรือพูดความจริงไม่หมด จนนำไปสู่ความเข้าใจผิดของประชาชน นั้น ในฐานะคอลัมนิสต์ ผมคงปล่อยให้ผ่านไปโดยไม่ทักท้วง คงไม่ได้ ต้องพูดจา ต่อว่าต่อขาน หรือถกแถลงความจริงกันบ้าง! ท่านผู้อ่าน ที่เคารพครับ ผมคิดว่า “การพูดความจริง” นั้น ไม่ว่าผู้พูดเป็นนักการเมือง สื่อ หรือคนในสาขาอาชีพใดก็ตาม จะทำให้บังเกิดความ “ปลอดภัย” ต่อผู้พูดเสมอ เพราะถ้าพูดความจริงแล้ว จะพูดกันกี่ครั้งๆ ก็เหมือนกันทุกครั้งไป! การพูดเรื่องไม่จริง พูดความจริงไม่ครบถ้วน หรือพูดความจริงบางส่วน หรือตบแต่งข้อมูล จนบิดเบี้ยว ทำให้ผู้คนไขว้เขว ซึ่งทุกวันนี้ อย่างสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อวิทยุบ้านเรา ที่เลือกข้างแล้ว ชอบทำกันนัก เพราะ... แม้ถูกจับได้ว่า “โกหก-ตอแหล” เต็มๆ แต่พอรุ่งขึ้นพวกเขาก็ไม่ได้รับผิดชอบ แต่ทำลืมคำพูดของตน ราวกับว่า ไอ้คำพูดเอียงกระเท่เร่ ที่ตัวเองพ่นออกทางวิทยุไปแล้ว ตั้งแต่วันก่อนนั้น ได้ล่องลอยหายไปแล้วตามสายลมและแสงแดด เพราะพวกคนฟังเอง เขาไม่ได้บันทึกเสียงเอาไว้ แล้วนำย้อนกลับมา “ล่อตูด” ผู้ดำเนินรายการได้ภายหลัง แต่... หากผู้จัดรายการคนใด ที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ทางเว็บไซด์ของผม หลักฐานการโกหก-ตอแหล รวมทั้งชื่อ และนามสกุล ของพวกเขาหรือเธอเหล่านั้น จะติดอยู่ในเว็บไซด์นี้ เป็นหลักฐาน...ประจานต่อผู้คนตลอดไป! ไม่อยากจะใช้คำพูดแรงๆ เพียงแต่อยากฝากบอกไปถึงพวกสื่อ นักจัดรายการทางวิทยุ แต่ยังหลับหูหลับตา จัดรายการแบบเลือกข้าง เลือกสี หรือยึดโยงอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แบบเดียวกับคลื่น FM 96.5 จะเปิดตา และเปิดหู เปิดหอย เปิดหำ ฟังผมพูดหน่อย ก็คงจะดี!! “ซิ้มการ์กับป้าสัง” ว่า ...จริงไหมจ๊ะ!!!? ................... ท้ายบท ท่านที่สนใจ จะอ่านเรืองราวที่เกี่ยวข้องกับข้อเขียนข้างต้น ได้จากคอลัมน์ต่อไปนี้ 1. “สรยุทธ” อย่ากลัว...สู้กับพวกแม่งงงง!!! (ตอนที่1) vattavan/detail.php?cont_id=391 2. “สรยุทธ” อย่ากลัว...สู้กับพวกแม่งงงง!!! (ตอนที่ 2) vattavan/detail.php?cont_id=392 3. Social sanction กับ อ.ส.ม.ท. (แดนสนธยาภาค 2) vattavan/detail.php?cont_id=396 4. กรณีสรยุทธฯ เลขาฯ ก.ล.ต. “เสือก” อะไรด้วย!?ด้วย!? vattavan/detail.php?cont_id=397 เรื่อง สรยุทธ์ นั้น สิ่งหนึ่งที่ผมได้ชี้ ให้ท่านผู้อ่านเห็นชัดเจน คือ การทุจริตในองค์กรชั่วร้ายอย่าง อ.ส.ม.ท. ที่เต็มไปด้วยการคดโกง จนไม่สามารถลบล้างฉายาติดมาแต่ในอดีต คือ “แดนสนธยา” ลงไปได้ นั้น มาวันนี้ นายสุธรรม แสงประทุม ประธานกรรมการบริษัท อ.ส.ม.ท. และตัว ผอ. ต่างแย่งกันออกมาเปิดเผยความเลวร้ายในขบวนการ “รุมกันแดก” ในองค์กรแห่งนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า สิ่งที่ผมเคยวิพากษ์วิจารณ์ไอ้องค์กรอัปรีย์แห่งนี้ ยังคงพฤติกรรมคอรัปชั่น ไม่ได้ผิดเพี้ยนแต่อย่างใ ผมจะทำหนังสือ ไปถึงตลาดหลักทรัพย์ ขอให้เขาช่วยแจ้งพฤติกรรมของคนใน อ.ส.ม.ท. ให้ผู้ถือหุ้นทราบ เพื่อประกอบการพิจารณาในการซื้อขายหุ้น ในบริษัทมหาชนอย่าง อ.ส.ม.ท. ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับอุดมไปด้วยเรื่องคอรัปชั่น และไร้ธรรมาภิบาลแห่งนี้ด้วย
Posted on: Sat, 13 Jul 2013 13:07:16 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015