The Big Wedding - TopicsExpress



          

The Big Wedding (3/5) เหลือเชื่อว่าฮอลลีวู้ดไม่ค่อยได้ผลิตหนังครอบครัวตลกออกมามากเท่ากับหนังแนวอื่นๆ แนวที่ใกล้เคียงที่สุดที่มักจะได้ดูกันบ่อยๆ คือหนังแนวโรแมนติกคอมเมดีที่เน้นเล่าเรื่องราวความรักชวนฝันระหว่างหนุ่มสาวเป็นหลัก หรือถ้าเป็นแนวครอบครัวก็ทำออกมาในโทนดราม่ามากกว่า ซึ่งหนังตลกครอบครัวเรื่องล่าสุดที่ได้ดู แล้วรู้สึกว่าค่อนข้างเวิร์คก็คือเรื่อง Parental Guidance หนังครอบครัวตามสูตรเกี่ยวกับคุณตาคุณยายที่ต้องมาทำหน้าที่เลี้ยงหลานๆ ตัวแสบทั้งหลายแทนลูกสาวที่ต้องเดินทางไปทำงานต่างเมือง ซึ่งแน่นอนว่าคุณตาคุณยายทั้งสองคนก็ทำหน้าที่ได้ไม่ค่อยดีนัก ทำให้เกิดสถานการณ์ตลกๆ เว่อร์ๆ ตลอดเวลาสองชั่วโมงของหนัง และแน่นอนว่าสุดท้ายหนังก็ต้องจบลงอย่างน่าประทับใจ ด้วยฉากซึ้งๆตามธรรมเนียม กลับมาเรื่องเดิมต่อ, จากหน้าหนังที่ได้เห็นตอนแรกเข้าใจว่า The Big Wedding น่าจะเป็นแค่หนังโรแมนติกคอมเมดีธรรมดาอีกเรื่องนึงที่เล่าเรื่องงานแต่งงานระหว่างหนุ่มสาวสองคนที่ต้องมีเหตุการณ์วุ่นวายกันหลายตลบ ก่อนที่จะลงเอยอย่างมีความสุขกันได้ในที่สุด แต่หนังกลับฉีกตัวเองออกมา โดยลดความสำคัญของเส้นเรื่องงานแต่งงานระหว่างพระเอกกับนางเอกให้เท่ากับเส้นเรื่องของตัวละครอื่นๆอย่างเท่าเทียม ทำให้หนังมีประเด็นที่น่าสนใจและแตกต่างไปจากหนังแนวเดียวกันให้คนดูได้สนุกกันมากขึ้น เช่น ประเด็นของการกลับมาแกล้งเป็นครอบครัวกันอีกครั้งระหว่างพ่อแม่ฝ่ายพระเอกที่หย่ากันไปนานแล้วเกือบ 20 ปี (และที่สำคัญคือฝ่ายพ่อก็มีเมียใหม่แล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเพื่อนสนิทของฝ่ายแม่เองนั่นแหละ) ประเด็นเรื่องความรักที่ไม่ลงตัวระหว่างฝ่ายหญิงที่ไม่สามารถมีบุตรได้กับฝ่ายชายที่อยากมีลูกมาก ประเด็นเรื่องแม่บุญธรรม แม่โดยกำเนิดและแม่เลี้ยงของพระเอกที่ทุกคนต่างรักพระเอกเหมือนกันหมด และต่างอยากเป็นคนสำคัญของลูกมากที่สุด และประเด็นของการเป็นเมียใหม่ที่แม้จะทำหน้าที่ของการเป็นคนรักที่ดี แม่เลี้ยงที่ดี แต่บางครั้งบางคราวกลับกลายเป็นส่วนเกินของคำว่า"ครอบครัว"อยู่ดี พุดในแง่ถึงความเป็นหนังคอมเมดี หนังไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการสร้างเสียงหัวเราะมากเท่าที่ควร เพราะสถานการณ์ฮาๆทั้งหลายที่ผู้กำกับยัดใส่เข้ามาถ้าไม่ซ้ำซากน่าเบื่อ ก็ทะลึ่งตึงตังมากเกินไป จนทำให้มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่ารัก แต่ในแง่ของการเป็นหนังครอบครัว ทีมนักแสดงทุกคนในหนังเรื่องนี้ต่างทำหน้าที่ได้ดีมาก จนเราสามารถเชื่อได้จริงๆ ว่าเรากำลังนั่งดูเรื่องราวของครอบครัวๆนึงจริงๆ ไม่ใช่หนังที่ถูกแต่งขึ้นมา เคมีความเข้ากันของการเป็นพ่อแม่ลูก หรือพี่สาวน้องชายถือว่าลงตัวมากๆ ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง The Family Stone ที่อาจไม่ใช่หนังที่ดีมากนัก แต่เป็นหนังครอบครัวที่ดูแล้วรู้สึกอบอุ่น ประทับใจและสามารถเอามานั่งดูซ้ำได้เรื่อยๆ สรุปคือ น่าไปดูนะครับ หนังอบอุ่นดี ดาราเยอะ (คุ้มมาก) และให้แง่คิดดีๆหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องความรักของหนุ่มสาว การใช้ชีวิตแต่งงาน และความผูกพันระหว่างสมาชิกในครอบครัว ปล. ใครที่ชอบ Susan Sarandon คงสะใจ เพราะเรื่องนี้ป้าจัดเต็มมากกับบทป่วงๆ ที่ป้าแกตีบทแตกกระจุย เป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำมากครับ ปล.อีกอัน ใครชอบ Katherine Heigl มาดูได้ครับ คุ้มมาก ตอนแรกคิดว่าบทของเธอเป็นบทรองๆ ไม่สำคัญ และไม่น่าจะเยอะกว่าบทของพระเอกนางเอก แต่ดูไปดูมา เธอได้รับบทที่เด่นมากครับ แต่สำหรับแฟนๆ Amanda Seyfried คงผิดหวัง เป็นนางเอกซะเปล่า แต่บทน้อยและไม่เด่นเลย ไม่ต้องใช้ดาราระดับนี้มาเล่นก็ได้มั้ง เปลืองค่าตัวสุดๆ ปล.อันสุดท้าย จำ Ben Barnes กันได้ไหมครับ Prince Caspian ใน Narnia ไง เรื่องนี้เปลี่ยนลุคใหม่ เปลี่ยนทรงผม ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะ ใครว่าบทเจ้าชายหล่อแล้ว เรื่องนี้ฟินฝุดๆ 555+
Posted on: Tue, 06 Aug 2013 07:20:38 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015