ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- - TopicsExpress



          

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2556 10:30:07 น. กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,290 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,292 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.04 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,050 บาท กับ 20,150 บาท และกลับมาปิดที่ 19,000 บาท กับ 19,100 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,735 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,694 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 2 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 38% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 103 % GFM13 ปิด 19,160 บาท และ GFQ13 ปิด 19,240 บาท GF10M13 ปิด 19,160 บาท GF10Q13 ปิด 19,260 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 5.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,292 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 13.6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 19.959 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 989.94 ตัน (ขายออก 5.42 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 93.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 41.08 จุด ปิดที่ 14799.40 จุด ข่าวที่สำคัญ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลง 6.9% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน โดยราคาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,269 เหรียญในวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ 16 กันยายน ปี 2010 เมื่อวันศุกร์ SPDR ขายออกอีก 5.41 ตัน หรือ 0.54% สู่ระดับ 989.94 ตัน ข้อมูลจาก CFTC เก็บข้อมูลจนถึงวันที่ 18 มิถุนายน ระบุว่า นักลงทุนลดการถือสถานะ Long Position ลง 29% สู่ระดับ 38,951 คู่สัญญา ในขณะที่สถานะ Short เพิ่มขึ้น 14% มากที่สุดในรอบแปดสัปดาห์ ผลสำรวจจาก Bloomberg พบว่า เทรดเดอร์มีมุมมองเป็นลบต่อทองคำมากที่สุดในรอบสามปีครึ่ง นับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2010 โดยนักวิเคราะห์ 15 รายคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ การปรับเพิ่ม margin ในทองคำของ CME Group จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ โดย initial margin จะเพิ่มขึ้นจาก 7,040 เหรียญเป็น 8,800 เหรียญ และสำหรับ maintenance margin จะเพิ่มขึ้นจาก 6,400 เหรียญเป็น 8,000 เหรียญ เจ้าของร้านค้าทองในไต้หวัน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า นักลงทุนชาวไต้หวันรู้สึกกังวลในการที่จะเข้าซื้อทองคำในตอนนี้ โดยธนาคารกลางไต้หวันระบุว่า หลังจากราคาต่างประเทศลดลงไปต่ำกว่าระดับ 1,300 เหรียญอีกครั้ง จำนวนประชาชนที่เปิดบัญชีทองคำก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากพวกเขายังอยู่ในสถานะ wait and see ประธานสมาคมค้าทองคำแท่งของอินเดียกล่าวว่า ปริมาณนำเข้าทองคำในช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายนที่จะมาถึงอาจลดลงอยู่ที่ประมาณ 120 - 150 ตัน จากระดับ 350 ตันที่วางโครงการไว้ในไตรมาสนี้ เหมืองทองนิวเครสต์ ไมน์นิ่ง ตัดสินใจที่จะลดมูลค่าเหมืองมากถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นค่าใช้จ่ายที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์เหมืองทอง และแบร์ริค โกลด์ คอร์ป, นิวมอนต์ ไมน์นิ่ง คอร์ป และโกลด์ ฟิลด์ อาจเป็นรายต่อไป เหล่าโบรกเกอร์ระบุว่า สิ่งที่ต้องจับตา ณ ขณะนี้ก็คือค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ yield พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งสูงขึ้นถึง 2.495% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2011 และทุกตลาดกำลังจับตาสถานการณ์ yield พันธบัตรตอนนี้ บีโออีกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า สหราชอาณาจักรได้ยอมรับการสวอปเงินสกุลเงินเหรินหมินปี้มูลค่า 2 แสนล้านหยวนกับธนาคารกลางจีน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในความพยายามของอังกฤษที่จะเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราของจีนเหมือนอย่างไต้หวันและสิงคโปร์ และแสดงให้เห็นว่า จีนกำลังเปิดประเทศอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกลางจีนปฏิเสธที่จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบและมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยการให้กู้ยืมระยะสั้น ชี้ให้เห็นว่านโยบายการเงินของจีนเริ่มที่จะเปลี่ยนจากปริมาณเป็นคุณภาพของสภาพคล่องตลาด โกลด์แมน แซคส์ ลดการคาดการณ์จีดีพีจีนปีนี้ลงเหลือ 7.4% จาก 7.8% และปีหน้า 7.7% จาก 8.4% ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ ทิศทางราคาทองคำ ทองคำปรับตัวลดลงในช่วงสัปดาห์ที่แล้วเกือบ 100 เหรียญ/ออนซ์ หรือปรับลดลงโดยประมาณ 6.9% ท่ามกลางแรงกดดันจากข่าว QE โดยที่ราคาทองคำตลาดเช้านี้อยู่ที่บริเวณ 1,295 เหรียญ ค่าเงินบาทเองยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 31.10 บาท/ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองคำของไทยปรับตัวลดลงในช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันลดลงมาแล้วกว่า 24% วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ทางเทคนิคในระยะสั้นวิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำอาจจะเคลื่อนตัวอยู่ในทิศทาง Sideway Down ในกรอบ 1,270 — 1,300 เหรียญ โดยแนวรับด้านล่างจะอยู่บริเวณ 1,270 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว หากหลุดระดับ 1,270 เหรียญ อาจจะลงไปถึงระดับ 1,250 เหรียญได้ ในขณะที่แนวต้านด้านบนบริเวณ 1,310 เหรียญดูจะค่อนข้างแข็งแกร่งมาก กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังแนะนำให้ทำการลงทุนตามแนวโน้มทิศทางขาลงเป็นหลัก โดยเปิด Short Position และหาจังหวะในการซื้อปิดสถานะ Short Position เมื่อราคาปรับตัวลดลง ราคาทองคำของไทยจะมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 18,900 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ระดับ 19,400 บาท/บาททองคำ - นักลงทุนถือ Long Position ยังคงแนะนำให้หาจังหวะในการปิดสถานะ Long Position และเปิดสถานะ Short Position - นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ทำกำไรเป็นช่วงๆ และหาจังหวะในการเปิด Short Position เมื่อราคาเด้งขึ้นมาบริเวณแนวต้าน Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,060 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,260 บาท Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,130 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,330 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
Posted on: Mon, 24 Jun 2013 07:17:01 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015