จูงดัชนีง่าย ๆ (หายนะสิวุ้ย) ตัวเลขดัชนี(set) เกิดจากผลรวมราคาหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การเปลี่ยนแปลงขึ้นลงหรือบวกลบของดัชนีเกิดจากการเปลี่ยนแปลงราคาที่ตกลงซื้อขายระหว่างเวลาซื้อขายและสรุปเป็นตัวเลขสุดท้ายเมื่อปิดตลาดในแต่ละวัน สรุปง่าย ๆ คือราคาหุ้นเป็นตัวสร้างดัชนี แต่ผู้คนในตลาดกลับมีความเชื่อและพฤติกรรมตรงข้าม ดัชนีหุ้นบวก ผู้คนจะมีแนวโน้มซื้อหุ้น ยิ่งบวกมาก แนวโน้มซื้อยิ่งมากจนอาจกลายเป็นแย่งกันซื้อ และกลายเป็นการซื้ออย่างบ้าคลั่งหรือตกใจซื้อ(panic buy) หากดัชนีลดลง ผู้คนจะมีแนวโน้มขายหุ้นที่มีอยู่ออกไป เพราะหวั่นกลัวว่าราคาหุ้นนั้นจะลดลง ดัชนีลดลงเป็นร้อยละที่มาก เป็นการลดลงโดยรวดเร็ว ผู้คนก็จะยิ่งเร่งการขายหุ้นในอัตราที่เร็วและรุนแรงกว่า กลายเป็นแย่งกันขาย ราวกับมีอันตรายร้ายแรงต้องแย่งกันหนีตาย ทำให้เกิดการขายกราดทุกราคา (แรงซื้อตั้งรับไม่ทัน) ราคาหุ้นจึงยิ่งทรุดลงอย่างรวดเร็ว (panic sell) ดัชนีตลาดขึ้น หุ้นรายตัวราคาบวก ดัชนีตลาดลง หุ้นรายตัวราคาลบ กลายเป็นว่า ราคาหุ้นแต่ละตัวส่วนใหญ่ขึ้น-ลงตามการขึ้นลงของดัชนี ดัชนีเป็นตัวกำหนดราคาหุ้น ไปซะงั้น (นักวิเคราะห์บางสำนัก ปรับราคาเป้าหมายหุ้นรายตัวตามระดับดัชนี ตลกมาก..) มีผู้คนอยู่จำนวนหนึ่งเห็นถึงความผิดเพี้ยนนี้และนำไปใช้หาประโยชน์จากการเทรดหุ้นและเทรดฟิวเจอร์ เป็นที่รู้กันอยู่ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้นชี้นำโดยหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าราคาตลาดขนาดใหญ่ไม่กี่บริษัท เช่น PTT ADVANC PTTEP SCC SCB KBANK BBL CPALL PTTGC INTUCH DTAC KTB AOT BAY BGH CPN CPF ดังนั้นการชี้นำราคาหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง หรือสองถึงสามตัว ในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้ให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการได้ ก็เท่ากับสามารถควบคุม กำหนด ทิศทางของดัชนีในแต่ละวันได้ ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีในปัจจุบันอย่างคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเทรด สามารถทำได้กระทั่งกำหนดราคาปิดในแต่ละวันละเอียดถึงทศนิยมสองหลัก ลองสังเกตดู หากจู่ ๆ ดัชนีไหลรูดลงอย่างรวดเร็ว ให้เข้าไปดูหุ้นใหญ่เหล่านี้ อาจได้เห็น SCC ราคาลดลงติดลบ 10 บาท PTT ลดลง 14 บาท ในเวลาเดียวกัน หากดัชนีจู่ ๆ ก็พุ่งขึ้น อาจพบว่า PTTGC กับ ADVANC ควงคู่กับบวก 3% ก็เป็นได้ และสิ่งที่ตามมาก็คือ ราคาหุ้นตัวเล็กตัวน้อยก็จะพากันเคลื่อนไหวตามกันเป็นลำดับ บางตัวตามขึ้น-ลงอย่างรวดเร็ว บางตัวต้องใช้เวลาหน่อยเพราะความรู้สึกช้า และก็มีบางพวกเหมือนกันที่ช้ามาก ประมาณว่า ส่วนใหญ่หยุดเคลื่อนไหวแล้ว พวกนี้ถึงเริ่มขึ้น-ลงตามเป็นกลุ่มสุดท้าย (ลองตามดูสิ สนุกนะ) ด้วยเหตุผลเฉพาะตัวหลายประการ หุ้นของบริษัทที่ไม่ตามดัชนีก็มีนะ พฤติกรรมทำดัชนีให้สูงขึ้นเรียกทั่วไปว่า "ลาก" พฤติกรรมทำให้ดัชนีลดลงเรียกทั่วไปว่า "ทุบ" พฤติกรรมผู้คนที่ถูกชี้นำให้ ซื้อ-ขายตามเรียก "ตามแห่" ผู้คนที่นำการซื้อ-ขายแบบนี้เรียก "เจ้ามือ" และผู้คนที่ซื้อ-ขายตามเรียก "แมลงเม่า" พฤติกรรมแบบนี้ยังลุกลามไปถึงหุ้นเป็นรายบริษัทอีกด้วย เฮ้อ...
Posted on: Wed, 21 Aug 2013 15:32:36 +0000
Trending Topics
Recently Viewed Topics
© 2015