ดิฉัน นิตยา สังฆะ - TopicsExpress



          

ดิฉัน นิตยา สังฆะ สมาชิกนิชิเร็นโชชู อุดรธานี ปัจจุบันเป็นนักสังคมสงเคราะห์ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ อาศัยอยู่กับสามีและบุตรชายหญิง 2 คน ครอบครัวบรรพบุรุษรุ่นปู่ย่าตายาย อพยพมาจากประเทศจีน ทำให้ยึดถือธรรมเนียมไหว้เจ้าแบบคนจีน และปฏิบัติพุทธหินยานแบบคนไทย ซึ่งรวมไปถึงการเชื่อโชคลางของขลัง ดูหมอ เข้าเจ้า เข้าทรง การปฏิบัติตามหลักธรรมที่แท้จริงในพุทธศาสนามหายาน นิกายนิชิเร็นโชชู เริ่มจากแม่มีปัญหาที่พ่อไปอยู่กับภรรยาใหม่ ทำให้ลำบากมาก แม่อธิษฐานว่า ถ้าเป็นหลักธรรมที่แท้จริงขอให้ครอบครัวมีความสุข ปรากฏว่าพ่อทะเลาะกับภรรยาใหม่ หลังจากที่อยู่ด้วยกันเป็นเวลา 10 ปี และกลับมาอยู่กับแม่ ในตอนแรกดิฉันยังไม่เข้าใจกุศลผลบุญของธรรมมหัศจรรย์ ทั้งที่เห็นแม่ปฏิบัติมาตั้งแต่อายุประมาณ 15 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งมีพนักงานขายยาคูลท์ มาแนะนำ รู้สึกสนใจมากและลองปฏิบัติดู ได้เห็นความแตกต่าง เพราะเป็นคนกลัวผี และพอสวดนัมเมียวโฮเร็งเงเคียว ทำให้หายกลัวและมีจิตใจเข้มแข็งอย่างประหลาด และได้รับรู้ถึงข้อพิสูจน์ที่เป็นจริงหลายอย่าง ดิฉันเริ่มรู้จักความทุกข์อย่างแท้จริง เมื่อแต่งงาน เริ่มจากความยากจน สามีหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ สังสรรค์กับเพื่อนทำให้มีปัญหาเศรษฐกิจ รู้สึกเกิดความเบื่อหน่ายและน้อยใจถึงกับกินยาเกินขนาดเพื่อประชดสามี ตอนนั้นกลัวมากได้สวดนัมเมียวโฮเร็งเงเคียวออกมาอย่างอัตโนมัติ ปรากฏว่าไม่มีอาการอะไร นับว่าเป็นกุศลผลบุญเห็นชัดอย่างหนึ่ง กุศลผลบุญเห็นชัดในตอนแรกคือ ตอนที่คลอดลูก เจ็บปวดทรมานมาก ร้องตะโกนนาน 3 ชั่วโมง หลังจากที่นึกถึงคำแนะนำของแม่ได้ ก็ลองสวดดู ปรากฎว่าหายปวด และคลอดง่ายมาก ต่อมามีเพื่อนที่ไม่เคยติดต่อกันแนะนำให้ไปสมัครงาน และได้งานทำเป็นลูกจ้างที่โรงพยาบาลแถวบ้าน ด้วยความที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับที่ทำงานได้ และจากแรงกดดันของปัญหาครอบครัว ทำให้มีอาการทางประสาท เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า ส่งผลกับร่างกาย แต่ก็ยังไม่ยอมปฏิบัติ จนกระทั่งแม่ถามว่าจะยอมตายหรือยอมปฏิบัติ ซึ่งนับว่าเป็นเหตุที่ดีทำให้หันมาปฏิบัติอย่างจริงจังโดยสวดมนต์วันละ 3-4 ชั่วโมง เป็นเวลาหนึ่งเดือน รู้สึกมีสมาธิ มีสติ มีปัญญา มีพลัง และเกิดความกล้าหาญมั่นคงในจิตใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มีเพื่อนพูดชมว่าดูดีขึ้น ทำให้สัมผัสได้ถึงอานุภาพของธรรมมหัศจรรย์ จึงปฏิบัติมาเรื่อยๆโดยการสวดมนต์เช้าเย็นและบอกคนอื่นต่อทุกวันโดยไม่ขาด ช่วงที่เกิดความเชื่อมั่นอย่างแท้จริงคือ สอบบรรจุรับราชการได้ แต่ไม่มีตำแหน่งว่างในจังหวัดที่อยู่ จึงอธิษฐานว่าหากได้รับการบรรจุแต่งตั้งที่จังหวัดนั้น จะขออุทิศชีวิตให้ธรรมมหัศจรรย์นี้และเผยแผ่สุดความสามารถ ปรากฏว่ามีตำแหน่งว่างเพราะเจ้าหน้าที่ขอย้ายไปที่อื่นกระทันหัน เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ตอนนั้นเราอยู่ภายใต้การชี้นำของสมาคมสร้างคุณค่า การปฏิบัติมีเพียงตั้งเป้าให้กิเลสสมหวังซึ่งทำให้กิเลสเรามากขึ้นเท่านั้น ชีวิตจึงขึ้นๆลงๆ ตั้งใจอยากรับโงะฮนซนและไปโทซังแต่ทางสมาคมฯบอกว่ามีปัญหากับทางวัด เป็นช่วงที่สมาคมถูกขับออกจากวัดใหญ่ แม่บอกว่าถ้าไม่เคารพเชื่อฟังทางวัดก็ไม่สมควรเป็นลูกแม่ จึงตัดสินใจขอรับศีลและรับโงะฮนซนในคราวเดียวกัน พร้อมกับไปโทซังครั้งแรกในการศึกษาธรรมะภาคฤดูร้อนกับแม่ในปี ค.ศ.1999 เมื่อกลับจากโทซัง จึงเข้าใจหลักธรรมที่แท้จริงว่ามีความแตกต่างกับคำสอนชั่วคราวและสมาคมสร้างคุณค่าอย่างไร และเริ่มศรัทธา ปฏิบัติ ศึกษา อย่างจริงใจ พร้อมกับพยายามแก้ไขอุปนิสัยตัวเองอย่างจริงจังจนสามีหันมาศรัทธาด้วย เพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ปกติจะมีอารมณ์อสุระ เป็นคนขี้บ่น ดื้อรั้น เอาแต่ใจตัวเอง เมื่อปฏิบัติอย่างจริงจังทั้งครอบครัว ได้พบกุศลผลบุญที่เห็นชัดอีกอย่างคือ ลูกชายที่เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ต้องให้เลือดทุกอาทิตย์ ก็มีอาการเป็นปกติ ลูกสาวก็สามารถเรียนแพทย์จบด้วยคะแนนที่ดีและจับฉลากได้ทำงานในจังหวัดที่บ้าน เป็นผลจากการปฏิบัติศรัทธาอย่างสม่ำเสมอ โดยลูกสองคนหัดสวดมนต์พร้อมกับหัดพูดและสามารถสวดมนต์ทำวาระเช้าเย็น และสวดโชไดได้ ขณะนี้เวลาผ่านไป 25 ปีแล้ว กุศลผลบุญที่เห็นไม่ชัดอีกอย่างที่ใช้ระยะเวลานานจนปรากฎเป็นผลบุญเห็นชัดที่สัมผัสได้คือ อารมณ์จิตใจดีงามมากขึ้น มีสติปัญญาแยกแยะว่าอะไรถูกผิด อะไรดีชั่ว ทำให้พยายามหลีกเลี่ยงการสร้างเหตุไม่ดี เพราะประทับใจหลักคำสอนที่ว่า หากต้องการเข้าใจเหตุในอดีต จงดูผลปัจจุบัน และหากต้องการเข้าใจผลในอนาคต จงดูเหตุที่สร้างปัจจุบัน ไม่ต้องถามหมอดูเพราะหมอดูดูได้ แต่ช่วยแก้ไขชตากรรมเราไม่ได้ และตามหลักคำสอนที่กล่าวว่าสิบภูมิ ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นอารมณ์ความรู้สึกของเราที่เป็นตัวสร้างชตากรรม เนื่องจากภูมิอสุระ ทำให้ครอบครัวประสบอุบัติเหตุและเจ็บป่วยบ่อยมาก และในขณะที่รับราชการ ก็มีภูมิเปรตไม่รู้จักพอ ยังใช้เวลาว่างไปทำธุรกิจขายตรง ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ไม่เท่ากับที่เสียไป ทำให้ธุรกิจไม่ประสบผลสำเร็จและยังใช้เงินเก็บจนหมดอีกด้วย บ้านก็ถูกขโมยงัดแงะบ่อยมาก และในที่สุดสามีก็ตัดสินใจไปมีภรรยาใหม่ จนต้องหันมาทบทวนตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น แม่เคยบอกว่า ถ้าปฏิบัติธรรมมะนี้ ชตากรรมในอดีตจะออกมา เมื่อหมดแล้วก็จะมีสิ่งดีดีตามมา ดิฉันก็เฝ้ารอแต่สิ่งดีดี โดยไม่รู้ว่าชตากรรมเมื่อไหร่จะหมด จนกระทั่งมีผู้หญิงมาหลอกสามีอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่ครั้งนี้รู้สึกรับได้ไม่ถึงกับทุกข์มาก โดยพยายามทำตามหลักธรรมที่ว่าสิ่งแวดล้อมคือเรา ทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยตัวเรา ไม่ใช่เปลี่ยนสามี และได้ตัดสินใจลาออกจากราชการหลังจากทำงานมาเป็นเวลา 19 ปีเศษ มีโอกาสได้ทำงานพระอย่างเต็มเวลาสมความตั้งใจ ทำให้เข้าใจคำชี้นำของพระสังฆราชที่กล่าวว่าผู้คนส่วนใหญ่เปรียบเหมือนคนสายตาสั้น มองเห็นแค่ประโยชน์เฉพาะหน้า เป็นผลให้ทำงานหนักและได้รับความลำบากโดยไม่จำเป็น ดิฉันได้ศึกษาข้อความจากบทธรรมนิพนธ์ฉบับหนึ่ง เรื่อง ฤดูหนาวย่อมเปลี่ยนเป็นฤดูใบไม้ผลิเสมอ ได้เรียนรู้ว่าฤดูหนาวจะยังไม่เปลี่ยนเป็นฤดูใบไม้ผลิถ้าตราบใดเรายังไม่รู้ว่าทำไมเราจึงหนาว และรู้สึกประทับใจในข้อความตอนหนึ่งจากบทธรรมนิพนธ์ ที่กล่าวว่า จงทุกข์เมื่อมีความทุกข์ จงสุขเมื่อมีความสุข จงถือว่าความทุกข์และความสุขเป็นความจริงของชีวิต และจงสวดนัมเมียวโฮเร็งเงเคียวต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และแล้วคุณจะพบกับความสุขที่มากมายไม่มีขอบเขตจากหลักธรรมนี้ ดิฉันยังคงพาครอบครัวไปเยี่ยมสมาชิก และร่วมกิจกรรมของทางวัดอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งชาคุบุคุสมาชิกได้ จำนวนหนึ่ง พร้อมกับพาสมาชิกไปโทซัง ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในครอบครัวอย่างชัดเจน สามีได้หันมาปฏิบัติศรัทธาอย่างจริงจัง ได้ย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัวและสนับสนุนการปฏิบัติศรัทธาพร้อมกับพาครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรมของทางวัดมาโดยตลอด ปัจจุบันดิฉันได้พยายามพูดคุยเกี่ยวกับศาสนาพุทธนิชิเร็นโชชู กับคนที่ได้พบทุกวัน รู้สึกว่าหลักธรรมนี้ รับนับถือง่ายแต่ยึดถือต่อเนื่องยาก ดังที่พระสูตรได้กล่าวไว้ แต่จะไม่เลิกล้มความพยายามในการชาคุบุคุ และการควบคุมชตากรรมด้านลบของตัวเอง พร้อมกับพาคนในครอบครัวและสมาชิกไปขอบคุณไดโงะฮนซนทุกปี มีความมั่นใจว่าสามารถยืนหยัดและยึดมั่นศรัทธาต่อไปได้ ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการขึ้นๆลงๆ ของชีวิตอีกกี่ครั้งก็ตาม ดิฉันพบว่าโงะฮนซนได้ตอบคำอธิษฐานของดิฉัน 2 ข้อ ครบแล้ว คือ 1. ขอให้ได้อยู่เป็นหลักแหล่ง 2. ขอให้มีบุญวาสนาได้ทำงานพระเพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณพระรัตนตรัย ปัจจุบันคำอธิษฐานส่วนตัวคือ ขอให้ทุกคนในโลกนี้มีความศรัทธาที่ถูกต้อง มีบุญวาสนาได้ไปขอบคุณไดโงะฮนซนที่วัดใหญ่ไทเซขิจิ ขอให้ศูนย์กลางการเผยแผ่ธรรมะจัดตั้งที่ประเทศไทยและการเพิ่มจำนวนโพธิสัตว์แห่งพื้นโลกสำเร็จโดยเร็วที่สุด ขอให้ครอบครัวมีบุญวาสนาได้เผยแผ่ธรรมมะ มีพลังขัดเกลาตัวเอง เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนมาศรัทธา มีบุญวาสนาพาสมาชิกไปขอบคุณไดโงะฮนซนที่วัดใหญ่ไทเซขิจิ ซึ่งดิฉันได้ไปแล้วจำนวน 22 ครั้ง จากที่ตอนแรกคิดว่าในชีวิตนี้ขอไปเพียงหนึ่งครั้ง ปรากฎว่าได้ไปทุกปี บางปีได้ไปปีละสามครั้ง พร้อมกับสมาชิกและคนในครอบครัว สุดท้ายนี้ ดิฉันขอขอบพระคุณพระสังฆราช คณะสงฆ์และผู้อาวุโสทุกท่านที่ให้คำชี้นำ ตลอดจนให้กำลังใจในการปฏิบัติศรัทธา ทำให้แก้ไขชตากรรมได้จนปัจจุบัน ดิฉันจะพยายามปฏิบัติเพื่อตนเองและเพื่อผู้อื่นต่อไป จนวาระสุดท้ายของชีวิต ขอบคุณค่ะ
Posted on: Mon, 25 Nov 2013 03:25:48 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015