ทั ก ษิ ณ กั บ เ ณ ร ค ำ - วันพฤหัสบดี ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลานี้ นายวิรพล สุขผล อดีตหลวงปู่เณรคำ กำลังหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประกาศเดินหน้าคดีเต็มที่ เตรียมดำเนินการอายัดทรัพย์สินหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคาร รถยนต์ ทรัพย์สินต่างๆ ที่ดิน บ้าน คอนโดมิเนียม ทุกอย่างที่อยู่ในชื่อนายวิรพล และจะประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่ออายัดทรัพย์สินนอกเหนือจากชื่อนายวิรพล อาทิ ญาติใกล้ชิดหรือนอมินี ดีเอสไอยืนยันว่า เมื่อศาลอนุมัติหมายจับแล้ว จะดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวนายคำกลับมา 2 ช่องทาง ช่องทางที่ 1 จะทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อให้ พศ.แจ้งทางศูนย์การออกพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางของเถรสมาคม ให้ทราบว่าศาลได้ออกหมายจับแล้ว เพื่อจะประสานงานกับการกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ให้มีการเพิกถอนพาสปอร์ตของนายวิรพล ช่องทางที่ 2 ดีเอสไอจะประสานกับหน่วยงานกลางของสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้เพิกถอนวีซ่า รวมไปถึงประเทศในยุโรปด้วย 1) การดำเนินคดีกรณีของนายคำ สะท้อนว่า หากผู้บังคับใช้กฎหมายต้องการดำเนินคดีอย่างจริงจัง จะมีเครื่องมือทางกฎหมายมากมายในการดำเนินคดีและติดตามตัวผู้กระทำผิดกลับมาขึ้นศาลไทย 2) บรรดาลูกศิษย์ของอดีตเณรคำและนายคำเอง ย่อมมีสิทธิที่จะสงสัยว่า หากนายคำมีน้องสาวเป็นนายกรัฐมนตรี นายคำจะถูกดำเนินคดีแบบจัดเต็มเช่นนี้ หรือไม่? นายคำยังไม่ถูกศาลพิพากษา แต่คนอย่างทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาคดีถึงที่สุด จำคุก 2 ปี แถมยังมีหมายจับคดีทุจริตโกงกินอีกมากมายติดตัวอยู่ บัดนี้ยังหลบหนีลอยนวล นั่งเครื่องบินเจ็ทเดินทางไป-มา แถมคนในรัฐบาลยังไปพบปะ เจ้าหน้าที่รัฐไปกราบกรานสอพลอ โดยไม่ปรากฏความกระตือรือร้นที่จะไล่ตามจับกุมตัวเลย 3) การจะประสานหน่วยงานรัฐต่างประเทศ ทั้งสหรัฐและประเทศในยุโรป เพื่อให้เพิกถอนวีซ่าของนายวิรพล ก็ยิ่งทำให้นายวิรพลสงสัยได้ว่า เหตุใดกรณีของนักโทษทักษิณจึงไม่ดำเนินการมาตรฐานเดียวกัน ตรงกันข้าม ทางการไทยในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์กลับเคยดำเนินการเพื่อช่วยเหลือให้ทักษิณได้รับวีซ่าเข้าประเทศเป็นกรณีพิเศษ เช่น ญี่ปุ่น เป็นต้น เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศคนใหม่ของไทย ได้ร้องขอระหว่างหารือเมื่อวันพฤหัสบดีกับนายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อขอให้ทางการญี่ปุ่นช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วยการอนุญาตให้เข้าเมืองในช่องทางพิเศษ แม้ว่าทักษิณจะมีคดีอาญาติดตัวและผู้ร้ายหลบหนีคดีอย่างชัดเจนก็ตาม 4) การจะดำเนินการเพื่อเพิกถอนหนังสือเดินทางของวิรพลก็เช่นกัน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หากได้รับหนังสือจากสำนักงานพุทธศาสนาแล้ว ก็จะเร่งดำเนินการตามกฎระเบียบของกระทรวง คาดว่าใช้เวลาพิจารณาไม่นาน เพราะเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ระเบียบ ข้อ 21 ระบุเนื้อหากรณีเข้าข่ายเพิกถอนหนังสือเดินทาง ได้แก่ ผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้ ผู้ที่ศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายอื่นสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ผู้กระทำผิดกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติทางราชการ ซึ่งขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือปิดบังความจริงอันเป็นสาระสำคัญ หรือแสดงเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จในการขอหนังสือเดินทาง หรือไม่อยู่ในฐานะที่จะเดินทางไปต่างประเทศได้ หรือหากเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จะเป็นภัยต่อสวัสดิภาพของผู้เดินทางเอง หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย หากเทียบเคียงกับกรณีหนังสือเดินทางของทักษิณ กลับปรากฏว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ถึงกับออกหนังสือเดินทางให้กับนักโทษหลบอาญาแผ่นดิน ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินเคยวินิจฉัยกรณีหนังสือเดินทางของทักษิณว่า เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง บางตอนว่า “...จากกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการออกหนังสือเดินทางของบุคคลที่มีสัญชาติไทยที่ใช้ในการเดินทางในต่างประเทศ อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ที่จะเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาออกหนังสือเดินทางแก่ผู้ร้องขอ และพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถที่จะปฏิเสธหรือยับยั้งคำขอ ยกเลิก และเรียกหนังสือเดินทางได้ หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าเป็นบุคคลที่ไม่สามารถออกหนังสือเดินทางได้ตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงแนวปฏิบัติของกระทรวงการต่างประเทศที่กำหนดให้กรมการกงสุลปฏิเสธรับคำขอหนังสือเดินทางเมื่อพบว่าบุคคลที่ร้องขอเป็นผู้ที่อยู่ในบัญชีต้องห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และจากข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจำเลยในคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ออกหมายจับไว้แล้ว และเป็นบุคคลที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และยังเป็นบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีต้องห้ามเดินทางออกนอกประเทศตามฐานข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นหลักสำคัญของการออกหนังสือเดินทาง แต่กระทรวงการต่างประเทศกลับพิจารณาว่ากรณีดังกล่าวไม่เข้าข่ายที่จะใช้ดุลยพินิจยับยั้งการออกหนังสือเดินทาง...” ผู้ตรวจการแผ่นดินได้อาศัยตามมาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2552 ขอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการทบทวนการออกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 และแนวปฏิบัติของกระทรวงการต่างประเทศที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด 5) เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เกรงว่านายคำจะคิดใช้วิธีย้อนเกล็ดทักษิณ อาจจะหาทางไปซื้อพาสปอร์ตสัญชาติมอนเตเนโกร ซื้อสโมสรฟุตบอลในยุโรป ซื้อสัมปทานธุรกิจในประเทศเผด็จการ ซื้อขี้ข้าในประเทศไทย พยายามส่งตัวแทนเข้ามากุมอำนาจรัฐ อ้างถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ขอแก้พระธรรมวินัย ชำระพระไตรปิฎก ฯลฯ นายคำจะไม่กลับบ้าน จนกว่าประเทศจะมีประชาธิปไตย!!! สารส้ม naewna/politic/columnist/7690
Posted on: Thu, 18 Jul 2013 06:08:41 +0000
Trending Topics
Recently Viewed Topics
© 2015