บล.ดีบีเอสวิเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 05/07/56 “คำกล่าวประธาน ECB หนุน Sentiment ให้เป็นบวก” กลยุทธ์การลงทุน : SET Index เมื่อวานนี้ลดลงต่อ 12.69 จุดมาปิดที่ 1430.88 นักลงทุนยังคงมีการเลือกขายปรับพอร์ตต่อในกลุ่มแบงค์, วัสดุก่อสร้าง, สื่อสาร, อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงรับเหมาก่อสร้างที่ถูกกระทบจากข่าวการเพิ่มทุนของ ITD และการที่ คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายมีความเห็นว่าพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทขัดรัฐธรรมนูญ นักลงทุน ต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิเล็กน้อย 115 และ 151 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 2.4 พันล้านบาท นักลงทุนต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิเล็กน้อย 115 และ 151 ล้านบาท ที่เหลือเป็น การซื้อสุทธิของรายย่อย ทั้งนี้นักลงทุนมีการขายชอร์ตในหุ้นหลักหลายตัวเมื่อวานนี้ สำหรับวันนี้ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นดีขึ้นหลังจาก ECB ยืนยันที่จะใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำกระตุ้น เศรษฐกิจต่อ โดยในถ้อยแถลงของประธาน ECB เปิดทางให้ ECB ลดดอกเบี้ยนโยบายจาก ปัจจุบันที่ 0.50% ลงได้อีก สำหรับตัวเลขภายนอกที่ติดตาม คือ ข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตร ของสหรัฐเดือนมิ.ย.ที่จะออกมาในคืนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดกันว่าจะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง ส่วนปัจจัยภายในเป็นภาพรวมเศรษฐกิจ, ความคืบหน้า & สถานการณ์ลงทุนในโครงการ ขนาดใหญ่ของรัฐ, Preview และรายงานกำไรสุทธิ 2Q56 ของบจ.,การเมือง เป็นต้น กลยุทธ์ : การลงทุนยังต้องใช้ความระมัดระวังสูง เน้นการเลือกซื้อ/ถือหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและ ควรมีจุด Stop loss ที่ชัดจนเพื่อจำกัดความเสี่ยงของพอร์ตไม่ได้สูงเกินไป ซึ่งในระยะสั้นให้จุด ตัดขาดทุนไว้ที่ 1420 จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อตามค่าบวกวันนี้เป็น BCP Fundamental Pick BCP แนะนำซื้อ ราคาปิด 36.75 บาท ราคาพื้นฐาน 44.00 บาท • คาดว่าผลการดำเนินงานของ BCP จะมีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ซึ่งเป็นผล จากกำลังการกลั่นที่เพิ่มสูงขึ้นที่ระดับ 100kbd เทียบกับ 74kbd ในปีที่ผ่านมา (เนื่องจากเหตุ ไฟไหม้), และการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar farm) เฟส 2 (32 เมกะวัตต์), ซึ่งเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในเดือนมี.ค.56 ทั้งนี้ BCP จะทำการเพิ่ม ประสิทธิภาพหน่วยการกลั่นน้ำมันดิบ (Crude Distillation Unit: CDU) ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการ ผลิตขึ้นราว 17% คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในราวกลางปี 57 เช่นเดียวกับโครงการ Solar farm เฟส 3 (48 เมกะวัตต์) ที่คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในราวกลางปี 57 ทั้งนี้ BCP ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement: PPA) และทำเลที่ตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นความเสี่ยงในการดำเนินโครงการจึงมี น้อยมาก เราประมาณการว่า BCP จะมีกำไรเติบโตถึง 47% ในปีนี้ และ 14% ในปีหน้า • เราเชื่อว่าในช่วงต่อจากนี้ กำไรของ BCP จะมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพมากกว่า ผู้ประกอบการโรงกลั่นรายอื่น ตามการเติบโตของ EBITDA ที่มาจากธุรกิจโซล่าร์ฟาร์ม ขณะที่ การยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 อย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้ น้ำมันต่างพากันหันมาใช้น้ำมัน E20 และ E85 ซึ่งมีอัตรากำไรในระดับที่สูงกว่าน้ำมันประเภท อื่น และนำไปสู่การขยายตัวของค่าการตลาดที่สูงขึ้น โดยปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ค่าการกลั่น (Gross Refinery Margin: GRM) อยู่ในระดับที่สูงกว่าผู้ประกอบการรายอื่น ทั้งนี้เราได้ตั้ง สมมติฐานแบบอนุรักษ์นิยมสำหรับ GRM ในปีนี้ไว้ที่ระดับ US$7/bbl และ US$8.5/bbl ในปี หน้า แนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมาย 44 บาท อิง EV/EBITDA ในปี 57 ที่ 7.0 เท่า ซึ่งคิด เป็น P/BV 1.5 เท่า และ P/E 8.6 เท่า สอดคล้องกับการประเมินมูลค่าธุรกิจในกลุ่มการกลั่น/ปิ โตรเคมี ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์ + สหภาพยุโรป : ECB คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% และคาดว่าจะคงดอกเบี้ยต่ำไปอีก ระยะหนึ่ง...เป็นข่าวที่ช่วยหนุนให้ Sentiment ตลาดดีขึ้นในระยะสั้น •/+ ประธาน ECB กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อวานนี้ (4 ก.ค.56) หลังจาก คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ว่าทาง คณะกรรมการฯคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ที่ระดับปัจจุบันหรือระดับต่ำกว่านี้ต่อไปอีกสักระยะ หนึ่ง ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : คำกล่าวของนายดรากิ ประธาน ECB บ่งชี้ชัดเจนว่าทาง ECB ต้องการที่ใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินกระตุ้น เศรษฐกิจต่อ และเปิดทางว่าอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงได้อีกหากเศรษฐกิจยุโรปยังซบเซามาก ขณะเดียวกันก็ผ่อนคลายความวิตกของนักลงทุนในเรื่องที่ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือ ไม่ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว 10 ปีขยับขึ้นจาก 1.0% เป็น 1.45% ใน ปัจจุบัน ซึ่งส่วนนี้ทำให้ Sentiment ในตลาดดีขึ้น โดยดัชนีตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น 2.1-3.4% ตอบรับถ้อยแถลงดังกล่าว ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนตอ้ งใช้เวลาในการฟื้น ตัวแต่เชื่อว่าจะถึงจุดต่ำสุดในปีนี้ และค่อยๆเติบโตขึ้นตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นไป สำหรับ DBS Bank คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะ -0.6% ในปี 56 และ +0.1% ในปี 57 (ปี 55 : -0.5%) • อังกฤษ : BOE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ตามคาด • ธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และคณะกรรมการฯ ยืนยันที่จะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่อไป • โปรตุเกส : ความวิตกเรื่องการเมืองผ่อนคลายลง • ความวิตกเรื่องการเมืองในโปรตุเกสผ่อนคลายลง หลังจากที่ผู้นำทางการเมือง ต่างๆ ได้ออกมากล่าวว่าจะพยายามประคับประคองรัฐบาลผสมเอาไว้ให้ได้ ทั้งนี้เมื่อวันอังคารที่ 2 ก.ค.56 นายเปาโล ปอร์ตาส รัฐมนตรีต่างประเทศของโปรตุเกสลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ นายวิโต กาสปาร์ รัฐมนตรีคลังเพิ่งลาออกไปเพียง 1 วัน ซึ่งนายปอร์ตาสเป็นหัวหน้าพรรคการ เมืองที่เป็นพันธมิตรที่สำคัญของรัฐบาลผสมชุดปัจจุบันของโปรตุเกส ส่วนนายกาสปาร์เป็นผู้ผลัก ดันแผนการปรับลดงบประมาณที่เป็นเงื่อนไขหลักของการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่าง ประเทศ - ดัชนีราคาถ่านหิน BJI ปรับลงต่อ...ยังแนะนำ Underperform หุ้น BANPU ดัชนีราคาถ่านหิน (BJI) สัปดาห์ล่าสุดสิ้นสุด 4 ก.ค.56 ลดลงอีก 2.15 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อตัน เป็น 77.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน นับว่าราคาถ่านหินยังซบเซามาก และต้องใช้เวลาในการ ฟื้นตัวอีกนาน เรายังคงแนะนำ Underperform หุ้น BANPU ปัจจัยในประเทศและหุ้น •/- CEO บจ.ไทยส่วนใหญ่กังวลเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ เสถียรภาพทางการเมือง กำลังซื้อใน ประเทศที่ชะลอตัวการขาดแคลนแรงงาน เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า •/- นายสุรงค์ บูลกุล นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) เปิดเผยถึงผลสำรวจซีอี โอ เซอร์เวย์เกี่ยวกับมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังปี 56 ว่าผู้บริหารระดับสูงของบจ.ที่ตอบ แบบสอบถาม 75 บริษัท จากทั้งหมด 9 อุตสาหกรรมทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และตลาดเอ็มเอไอ ระบุว่าในช่วง 6 เดือนข้างหน้าสิ่งที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจ ของตนเอง คือ ความกังวลเรื่องทีมและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยผู้บริหาร 24% ระบุว่ามี ความกังวลใจมาก ขณะที่ 50% มีความกังวลใจ และ 22% ไม่กังวลใจ ส่วนอีก 4% มองว่าน่าจะ มีผลด้านบวก รองลงมาคือเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งผู้ตอบ 20% กังวลใจมาก ขณะที่ 64% มี ความกังวลใจ และ 15% ไม่กังวลใจ ส่วนอีก 1% มองว่าจะมีผลด้านบวก นอกจากนี้ ยังมีความ กังวลเรื่องต่างๆ เช่น ความขัดแย้งทางสังคม การขาดแรงงานที่มีฝีมือ การขยายตัวของเศรษฐกิจ โลก ค่าเงินบาท และกำลังซื้อในประเทศ เป็นต้น - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.56 ลดลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน...เป็นลบกับกลุ่ม พาณิชย์ (Commerce) และที่พักอาศัย (Residential) - นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. 56 ลดลงมาที่ 81.6 ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากประชาชนกังวลกับเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ค่าครอง ชีพอยู่ในระดับสูง และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ยังผลให้ประชาชนชะลอการใช้จ่ายในการ ซื้อสินค้าลง ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นข่าวลบกับกลุ่มที่มีรายได้อิงกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นหลัก เช่น พาณิชย์ (Commerce), ที่พักอาศัย (Residential) เป็นต้น เราคาดว่าการเติบโตของยอดค้า ปลีกในช่วง 2H56 มีแนวโน้มจะอ่อนลง ขณะที่ยอดซื้อที่พักอาศัยเริ่มชะลอลงบ้างแล้ว เห็นได้จาก ยอดขายคอนโดที่เปิดขายใหม่ชะลอลงมาอยู่ที่ 30-50% ในช่วง 1 เดือนแรกของการเปิดขาย ลด ลงจากเดิมที่ประมาณ 60-70% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอุปทานในทำเลต่างๆมีมากขึ้น ทั้งที่เป็น โครงการใหม่และ Resales โครงการเดิม, ราคาขายสูงขึ้นมาก เนื่องจากต้นทุนค่าที่ดิน วัสดุก่อ สร้าง และแรงงานของโครงการใหม่ๆ สูงขึ้น, ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงแรง ทำให้กำลังซื้อส่วน หนึ่งหดตัวไป เราคาดว่าผู้ประกอบการอาจปรับแผนการเปิดขายโครงการใหม่ในช่วง 2H56 ให้ น้อยลง แล้วเลื่อนไปเป็นช่วง 1H57 แทน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของตลาดที่ชะลอลงทีม กลยุทธ์เราคาดการณ์ว่านักวิเคราะห์อาจปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของยอดขาย กำไร และราคาเป้าหมายของหลักทรัพย์ในกลุ่มพาณิชย์ และที่พักอาศัยลงในช่วงของการทำ Preview ผลประกอบการ 2Q56 หรือหลังจากกำไร 2Q56 ได้ประกาศออกมาแล้ว ซึ่งเป็นช่วงเดือนก.ค.- ส.ค.นี้ สำหรับหลักทรัพย์ใน 2 กลุ่มดังกล่าวที่คาดว่าจะมีการเติบโตของกำไรสุทธิปี 56-57 แข็ง แกร่ง แม้ว่าอาจมีการปรับประมาณการกำไรลงแล้วก็น่าจะยังขยายตัวเป็นเลขสองหลักได้ คือ BIGC, LPN, SC, SPALI เป็นต้น • เกี่ยวกับพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท...รัฐบาลยืนยันว่าพ.ร.บ.นี้ไม่ขัดต่อกฏหมายรัฐ ธรรมนูญ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่อาจล่าช้ากว่าคาด • นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่น กรองให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีบริหารจัดการน้ำ ยืนยันว่าการออกพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการ คลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ไม่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ขณะเดียวกันรัฐบาลมีความพร้อมที่จะทำตามคำแนะ นำของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายหรือคปก.ในส่วนที่เป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ เช่น การ ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EIA & HIA) ทั้งนี้ทางคปก.ได้ตั้งข้อสังเกตว่าพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท อาจเป็นการละเมิดรัฐ ธรรมนูญมาตรา 169 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “การจ่ายเงินแผ่นดินจะกระทำได้เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ใน กฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ กฎหมายเกี่ยวด้วยการ โอนงบประมาณ หรือกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง” เนื่องจากการกู้ยืมเงินควรเป็นความรับผิดชอบ ของรมว.คลัง, เงินกู้ดังกล่าวจึงเปรียบเสมือนเป็นเงินแผ่นดิน และการใช้จ่ายก็ควรจะเป็นไปตาม บทบัญญัติภายใต้รัฐธรรมนูญด้วยดังนั้นการออกพ.ร.บ. ด้วยวิธีอื่นที่นอกเหนือจากกฎหมาย กำหนดอาจถือได้ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : แม้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทจะขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ก็ทำให้ตลาดมีความกังวลว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลไม่น่าจะเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีความเสี่ยง เรื่องการเมืองหลังเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในเดือนส.ค.นี้ที่อาจทำให้การพิจารณาพ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทอาจล่าช้ากว่าคาด ทั้งนี้ในปัจจุบันพ.ร.บ.กู้เงินฯเพิ่งผ่านวาระแรกของที่ ประชุมสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งตามกระบวนการแล้วต้องผ่านวาระที่ 2-3 ของสภาผู้แทนราษฎร แล้ว เข้าสู่การพิจารณาวาระที่ 1-2-3 ของวุฒิสภาต่อไป ในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนำให้ลดน้ำหนักการลง ทุนในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างไปก่อนหน้าหนี้แล้ว ด้วยเหตุผลเรื่องปัญหาแรงงานตึงตัวที่อาจทำให้ การก่อสร้างและการส่งมอบงานล่าช้า ต้นทุนดำเนินงานสูงขึ้น และขณะนี้มีความเสี่ยงว่าโครงการ ลงทุนภาคเอกชนจะชะลอตัวในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และโครงการลงทุนขนาดใหญ่อาจจะล่าช้า ออกไป ทำให้เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน้อยลงไปอีก ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์จึง แนะนำเพียงซื้อเก็งกำไรตามรอบเท่านั้น ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย
Posted on: Fri, 05 Jul 2013 05:39:13 +0000
Trending Topics
Recently Viewed Topics
© 2015