ยาวไปนิสส แต่ - TopicsExpress



          

ยาวไปนิสส แต่ อ่านแล้วได้อะไรเยอะเลย ^^ แปะไว้ก่้อน เด๋วมาอ่านอีกรอบ 55 นิทานยักษ์ในตะเกียงกับการเทรดหุ้น กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชาวนาอยู่คนหนึ่งเป็นคนจนมาก และวันหนึ่งไปขุดดินก็ไปพบตะเกียงวิเศษอยู่อันหนึ่ง ก็สงสัยว่าเป็นตะเกียงวิเศษเหมือนในนิยายหรือเปล่า ก็เลยลองถูดู ก็ปรากฏร่างของยักษ์ตนนึงออกมา และพูดว่า "เจ้านายครับ ท่านสามารถขออะไรก็ได้ไม่มีจำกัด แต่มีข้อเดียวคือถ้าท่านไม่สามารถขอได้อีก ข้าจะจับท่านกิน" ชาวนาดีใจมาก และคิดว่าตัวเองจะขอไปเรื่อยๆ ได้แน่นอน ชาวนาจึงเริ่มขอบ้านหลังใหญ่ รถ ทองคำ เครื่องประดับ เรือ เครื่องบิน ยักษ์ก็เสกสิ่งของทุกอย่างที่ชาวนาขอได้ตลอด จนมืดค่ำชาวนาเริ่มง่วงนอน แต่ยักษ์บอกว่าท่านจะต้องขอไปเรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นข้าจะจับเจ้ากิน ชาวนาเห็นถ้าไม่ดีแล้ว จึงเริ่มอ้อนวอนยักษ์ว่าอย่าจับข้ากินเลย แต่ยักษ์ไม่ยอม ชาวนาเลยนั่งคิดด้วยสมาธิและสติปัญญาว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร จนนึกออกจึงบอกเจ้ายังไปว่า "อยากได้เสาต้นใหญ่ โดยที่ถ้าเราหายใจเข้าให้เจ้าปีนขึ้น และถ้าเราหายใจออกให้เจ้าปีนลง" ตั้งแต่นั้นมาเจ้ายักษ์ก็ไม่สามารถกินเจ้านายได้อีกเลย ยักษ์เปรียบเสมือนความโลภของมนุษย์ ซึ่งถ้าเราไม่รู้จักพอก็ทำให้เราเป็นทาสของยักษ์ แต่ถ้าเราพอแล้วยักษ์ก็เป็นทาสเรา ดังคำกล่าวของพระพุทธเจ้าที่ ตรัสไว้ว่า ความพอเพียงคือทรัพย์อย่างยิ่ง (สันตุฏฐี ปรมัง ธนัง) จากนิทานข้างต้นมันสอดคล้องกับการเทรดที่จะมีระเบียบที่ต้องเคร่งครัด (ไม่เช่นก็จะถูกยักษ์กินได้) ซึ่งระเบียบแบ่งเป็นหัวข้อได้ดังนี้ 1. ห้าม overtrade เด็ดขาด การ overtrade นั้นไม่เพียงแค่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว มันรวมถึงการเลือก timeframe ที่ใช้ในการเทรดซึ่งจะต้องเหมาะสมกับสภาพการทำงานและจิตใจของตัวเอง เมื่อก่อนผมเลือก timeframe ของการเทรด gold future ที่ H4 ปรากฏว่าจะต้องเฝ้าหน้าจอทุกๆ 4 ชั่วโมง นั่นหมายถึงเวลาตอนกลางคืนด้วย บางครั้งก็นอนไม่หลับ เพราะทองคำเล่นตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในตลาดบ้านเราไม่ใช่เกิดความกังวล สุดท้ายผมก็เลือก timeframe เป็น Day ทำให้ผมเปิดดู chart วันละ 1 ครั้ง เท่านั้น นั่นหมายถึงคุณมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ยึดติดกับเงิน เราเป็นเจ้านายมัน ไม่ใช่มันมาเป็นเจ้านายเรา 2. ห้ามเทรดด้วยความรู้สึกของตัวเอง ให้เทรดด้วยระบบเท่านั้น และห้ามแหกระบบ ในตลาดคนที่ประสบความล้มเหลวนั้นเกิดจากความกลัวและความโลภ แปลว่าถ้าเราไม่ใช้ตัวเองเป็นตัดสินว่าซื้อหรือขาย เราก็ประสบความสำเร็จได้ ส่วนระบบที่ใช้ในการเทรดจะเป็นแบบไหนก็ได้ที่เป็นระบบ trend following system ทำตามสัญญาณอย่างเคร่งครัด แล้วรวยแน่นอน 3. money, risk, porfolio management money mangement จะเกี่ยวข้องกับ risk โดยเมื่อเราเริ่มเทรดจะต้องดูที่ risk ก่อนไม่ใช่ดูที่ profit โดยใช้ระบบ 2% ปกป้องจากฉลาม และ 6% ปกป้องจากปิรันย่า (จากหนังสือ trading for a living ของ Dr.Alexander elder) ระบบ 2% ปกป้องจากฉลาม คือ ในหุ้นหนึ่งตัวจะต้องมี risk ไม่เกิด 2% ซึ่งรวมค่า commission, slippage,exchange fee แล้ว และระบบ 6% ปกป้องจากปิรันย่า คือ ในเวลาหนึ่งเดือนจะต้องไม่มี risk เกิด 6% ยกตัวอย่าง สมมติมีเงิน 1000000 บาท มีหุ้น A น่าสนใจโดยมี risk 2% เป็นเงิน 20000 บาท และหุ้น B น่าสนใจโดยมี risk 2% เป็นเงิน 20000 บาท และหุ้น C น่าสนใจโดยมี risk 2% เป็นเงิน 20000 บาท รวม risk ในเดือนนี้เท่ากับ 6% เป็นเงิน 60000 บาท ถ้ามีหุ้นน่าสนใจอีกเราก็ไม่สามารถเทรดได้แล้ว (สำหรับผมเลือกแค่ 1 % ก็มากแล้วเพราะว่าเวลาเทรดจริงๆ ราคามักจะลงมากกว่าที่คำนวณไว้ และมักจะเกิด slippage ด้วย) ส่วนถ้าเป็น future ผมจะคิดว่า margin ที่เราลงไปคือ risk ทั้งหมด เพราะ future สามารถเสียได้ทั้งหมด เช่น ถ้ามีเงิน 1000000 บาท เราสามารถเล่น Brent oil future ได้เพียง 1 สัญญาเท่านั้น margin =15580 คิดเป็น 1.558% < 2% ต่อหุ้น แล้วถ้าในเดือนเราขาดทุนถึง 6% เราต้องรอจนถึงเดือนหน้า(ไปนั่งสงบสติอารมณ์ก่อน) ระบบนี้ป้องกันเราจากการที่อยากจะเอาคืน แล้วก็เจ้ง..ซึ่งเป็นจุดจบของนักเทรด ส่วน portfolio management นั้น คือ การจัดการ asset ของเราให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด โดยจัดการเป็นลักษณะ pyramid ความเสียงน้อยสุด 50 % ควรเป็นทองคำแท่ง บ้าน หรือที่ดิน (ไม่ควรเป็นคอนโดเพราะไม่มีที่ดิน) ความเสีี่ยงมากขึ้น 40 % ควรเป็นกองทุนทองคำ หรือกองทุนระหว่างประเทศที่มีอนาคตดี ความเสียงมากสุด 10 % ควรเป็นหุ้น การวาง portfolio ที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะมันเหมือนการจัดทัพเพื่อเดินหน้าได้อย่างมั่นคง เพราะ 80%ของการเทรดคือ phychology เราจะต้องนิ่งถึงจะมองเห็นการเคลื่อนไหวและเลือกจังหวะเวลาที่ถูกต้องด้วยความอดทน (Patient is a vogue of a good trader) 4. สุดท้ายคือการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าเราอยู่กับที่เราก็กำลังเดินถอยหลัง เพราะคนอื่นเดินหน้าเสมอ ลองคิดไตร่ตรองให้ดีว่าคุณจะเอาเงินหรือเอาชีวิต แหล่งที่มา naturaltrader.blogspot
Posted on: Fri, 12 Jul 2013 09:51:34 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015