วิธีแก้ปัญหา และ - TopicsExpress



          

วิธีแก้ปัญหา และ ดูแลสุขภาพตา 1) การจัดสิ่งแวดล้อมใหม่ ได้แก่ การจัดวางโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้จอคอมพิวเตอร์อยู่ในระยะที่ห่างจากลูกตาประมาณ 20 – 24 นิ้ว วางในระดับที่ต่ำกว่า ระดับตาประมาณ 10 – 20 องศา เพื่อจะได้ไม่ต้องเหลือบตาขึ้นสูง ความสว่างของห้องต้องเพียงพอ อย่าใช้คอมพิวเตอร์ในห้องที่มืด ความสว่างในห้องหรือบริเวณโดยรอบจอคอมพิวเตอร์ต้องใกล้เคียงกัน แสงไฟไม่ควรส่องมาจากทางด้านหลังจอคอมพิวเตอร์ และที่สำคัญ ห้ามส่องตรงเข้าหาจอคอมพิวเตอร์เพราะจะทำให้เกิดแสงแตกกระจาย ผู้ที่จ้องมองจอเป็นเวลานานๆจะเกิดอาการแสบตาและปวดล้าในที่สุด นอกจากนี้ยังอาจใช้แผ่นกรองแสง (Anti-reflection screen filter) ที่มีขายตามท้องตลาดวางด้านหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยลดแสงสะท้อนและแสงที่แตกกระจายด้วย เป็นต้น 2) การควบคุมรวมทั้งการใช้งาน จอคอมพิวเตอร์จะขอแนะนำหลักการใช้คอมพิวเตอร์ว่าอย่างไรจึงจะเหมาะสม ได้แก่ความสว่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ ควรจะปรับให้สว่างเท่าๆกับ ความสว่างของห้องส่วนการแยกความแตกต่าง (contrast) ของหน้าจอ ซึ่งเราสามารถปรับที่จอคอมพิวเตอร์ได้นั้นควรจะปรับให้สูงสุดเท่าที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ยังรู้สึกสบายตา ขนาดของตัวหนังสือควรจะมีขนาดประมาณ 3 เท่าของขนาดตัวหนังสือ ที่เล็กที่สุดที่ท่านยังสามารถอ่านได้จากจอคอมพิวเตอร์ในระยะเดียวกัน ส่วนสีของตัวหนังสือควรเป็นสีดำบนพื้นสีขาวจะเหมาะสมที่สุด นอกจากนั้น ควรวางกระดาษหรือหนังสือที่จะต้องดูให้อยู่ในแนวเดียวกับจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันจะมีการใช้ตัวยึดด้านข้างจอคอมพิวเตอร์ที่สามารถหนีบกระดาษหรือหนังสือที่ต้องดู เพื่อจะได้ไม่ต้อง ก้มๆเงยๆมองระหว่างจอคอมพิวเตอร์กับหนังสือหรือกระดาษที่จะต้องดู เป็นต้น 3) การแก้ปัญหาทางตา เมื่อเราทราบแล้วว่าการใช้คอมพิวเตอร์แล้วทำให้การกระพริบตาลดน้อยลง ดังนั้นควรตระหนักในข้อนี้เสมอ บอกตนเองให้มีนิสัยในการกระพริบตาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก ในต่างประเทศถึงกับผลิตโปรแกรม (software) เพื่อเตือนและกระตุ้น ให้กระพริบขณะใช้คอมพิวเตอร์ออกขายในท้องตลาด นอกจากนี้ ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำก็จะต้องปรับนิสัยตัวเองให้มีการคลายกล้ามเนื้อที่ใช้ในการมองใกล้ โดยบังคับ ให้มองไปในที่ไกลๆนานประมาณ 1-2 นาทีเช่นการมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นครั้งคราวหรืออย่างน้อย 1-2 ครั้งทุกชั่วโมง หรือให้มีการหยุดพักการทำงานทุกชั่วโมงประมาณ 5-15 นาที เป็นต้น การใช้ยาหยอดตาก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะแก้ปัญหาตาแห้งได้ โดยแนะนำให้ใช้ได้เมื่อรู้สึกเมื่อยล้า แสบตาหรือตาแห้งเป็นครั้งคราว 4) ในผู้ที่อายุเริ่มมีสายตายืด หรือตายาวตามอายุ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป โดยปกตินิยมใช้แว่นตา 2 ชั้นซึ่งมีครึ่งบนไว้มองไกลส่วนครื่งล่างสำหรับมองใกล้นั้น อาจไม่สะดวกและเหมาะสมนัก การเปลี่ยนมาเป็น Progressive lens ซึ่งมีช่วงการมองหรือจุดโฟกัสหลายระดับโดยเฉพาะที่สำคัญคือระยะกลาง (intermediate zone) ซึ่งเป็นตำแหน่งของจอคอมพิวเตอร์ จะทำให้เห็นได้สบายตาในทุกระยะซึ่งจะมีประโยชน์มากโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาปวดคอและผู้ที่เป็นโรคข้อ อย่างไรก็ตามในต่างประเทศยังมีการแนะนำให้ใช้แว่นตาเฉพาะสำหรับการดูจอคอมพิวเตอร์โดยตรงซึ่งมีลักษณะคล้ายแว่นตาสำหรับสายตายืดดังกล่าวเพียงแต่เพิ่มระยะกลางให้กว้างขึ้นกว่าปกติ เพื่อจะได้มองจอคอมพิวเตอร์ได้ชัดเจน นอกจากนี้หากใช้แว่นตาก็ควรจะเคลือบสารที่ป้องกันการสะท้อน (anti-reflective coat) จะช่วยลดการสะท้อนของแสงเข้าตาได้อีกระดับหนึ่ง 5) การแก้ปัญหาปวดคอ ปวดไหล่ และปวดหลัง นอกจากจะจัดระดับจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมดังกล่าวแล้ว ท่านั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็มีความสำคัญ ควรจะต้องนั่งตัวตรง หลังเอนไปด้านหลังเล็กน้อย แขนทั้งสองในขณะกดแป้นพิมพ์ให้อยู่ในแนวขนานกับพื้น ส่วนเท้าควรวางราบกับพื้น หลังจากทราบว่าจะต้องปรับสิ่งแวดล้อม ลักษณะการใช้งานคอมพิวเตอร์ าและอุปนิสัยของตนเองอย่างไรแล้ว ผู้เขียนก็คาดว่าท่านจะสามารถกลับมาสนุกหรือมีความสุขกับการทำงานหรือท่องอินเตอร์เน็ตกันอีกครั้งหนึ่ง
Posted on: Fri, 05 Jul 2013 04:07:48 +0000

Trending Topics



Recently Viewed Topics




© 2015