เมื่อคืน ผมกับชิน Chinavut CheNo Chantarat นาขวัญ Nakwan Janbankord กับเพื่อนนาขวัญอีกคนและเปา Nipitpon Pichaidechpong อยากรู้ว่าสถานการณ์จริงๆมันเป็นอย่างไร ก็เลยตัดสินใจเข้าไปดูให้ถึงที่เลยครับ ทั้งสองฝั่งออกจะสู้กันอุตลุตทีเดียวครับเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ก็อารมณ์ดีนะครับ ไม่ได้เครียดบ้าเลือดแต่อย่างใด นักข่าวบริเวณนั้นก็ปักหลักทำข่าวอยู่ทั้งคืน ถนนไปที่ทำเนียบออกจะมืดมากๆ เดินลัดเข้าไปได้ถึงแนวถนนใกล้ๆกับแนวป้องกันของตำรวจเลย ซึ่งถ้าไม่ออกจากที่โล่งแจ้งและไม่มีแก๊สน้ำตาก็สามารถเข้าไปได้ แต่ก็ต้องระวังอยู่บ้างครับ ทางฝั่งผู้ประท้วงก็เผายางรถยนต์กับรถเพื่อเป็นม่านตาและเป็นแนวป้องกันการยิงสวนกลับด้วยอะไรต่อมิอะไร (ผมเองไม่ได้เห็น แต่หลายๆคนตรงนั้นบอกว่ามีตั้งแต่ยิงหัวน็อต ระเบิดแก๊สน้ำตา ไปจนถึงลูกซองครับ) แล้วก็ใช้ผลุขนาดใหญ่ยิงเข้าไปก่อกวนตลอดทั้งคืนเพื่อทำลายขวัญของตำรวจ และป้องกันไม่ให้ตำรวจรุกคืบขึ้นมาซ่อมแนวป้องกัน ควันจากยางรถยนต์ที่เผาลำพังก็แสบตาใช้ได้ละครับ ไม่ต้องพึ่งแก๊สน้ำตาแต่อย่างใด ส่วนทางฝั่งตำรวจก็จะตอบกลับโดยการใช้แก๊สน้ำตา หนังสติ๊กยิงกลับให้ช้ำและบาดเจ็บ แต่ช่วงที่ผมไปนั้น (ตีสองถึงตีห้าครึ่ง) จะเห็นทางตำรวจที่เมื่อเห็นรถของตัวเองโดนเผาแล้วก็เอาน้ำมันไปราดต่อ เพื่อให้ไฟมันลุกขึ้นเป็นบริเวณกว้าง ... สร้าง Dead Zone ขึ้นมาเพื่อให้ฝั่งการ์ด+อาชีวะ เข้าประชิดแนวรั้วไม่ได้ (ซึ่งน่าจะเป็นผลดีกว่าเพราะสามารถใช้แก๊สน้ำตายิงข้ามออกมาได้โดยง่าย และปลอดภัยเพราะระยะที่มากขึ้นทำให้ยิงอะไรหรือขว้างระเบิดขวดเข้าไปลำบากขึ้น) นอกจากนี้ยังมีผู้ประท้วงหลายคนในช่วงเกือบสว่างที่บอกว่าทางตำรวจเองก็เผารถเพิ่มไปอีกคัน .... อันนี้ผมไม่รู้จริงเท็จแค่ไหนเพราะมันมองเข้าไปลำบากอยู่ครับ จากรูปนั้นผมถ่ายพาโนราม่ามาให้เห็นทั้งบริเวณแยกเทวกรรม ทางด้านขวากับซ้ายจะเป็นหน่วยพยาบาลอาสาของม็อบ ส่วนตรงกลางที่เป็นกลุ่มคนยืนจะมีทั้งคนที่เ็ป็นกลุ่มรุ่นผ่านโลกมามาก ที่ช่วยกำกับม็อบและดูแลความเรียบร้อย รวมถึงเตือนเด็กอาชีวะไม่ให้ประมาท (เช่นใส่เสื้อขาว ไม่ปิดไฟหน้ารถ ฉายเดี่ยว เป็นต้น) ส่วนไกลๆตรงกลางคืนกลุ่มอาชีวะที่จะระจังหวะขึ้นไปทางถนนด้านหน้ากับพวก (เพราะถนนเส้นนั้นเดินไม่ระวังก็มีสิทธิ์โดนอะไรวูบได้อยู่เหมือนกันครับ ต้องดูจังหวะกันหน่อยครับ) ที่เหลือเป็นพวกกองน้ำ และน้ำเกลือไว้ล้างตาครับ ส่วนมุมถนนด้านขวาคือนักข่าวที่มาตั้งท่ารอทำข่าวและรอรายงานข่าวกันครับ คนกลุ่มนี้มักจะโดนผู้ประท้วงเตือนเสมอว่า ทำข่าวเป็นกลางนะครับพี่ .... พี่ต้องทำข่าวเป็นกลางนะ อยู่ตลอด .... ไม่รู้ว่าพี่ๆนักข่าวหน้างานเบื่อบ้างหรือเปล่านะครับ ด้านหน้านั้นมีตึกสองตึกคือ ธนาคารเพื่อการเกษตร และวิทยาลัยอะไรซักอย่างผมก็จำชื่อเต็มไม่ไ้ด้ครับ .... ทั้งสองที่นี้ในตอนกลางคืน หากใครเข้าไปยึดได้ก็เท่ากับว่าจะมองเห็นอีกฝั่งทั้งหมดเลยครับ .... แต่โชคดีที่เหมือนกับว่าจะไม่มีใครซักฝ่ายได้ใช้ตึกนี้ครับ (เว้นแต่ตอนต้นโดนผลุไปหลายนัดอยู่นะครับ จากที่เห็นในวิดีโอบน Vimeo) ถ้าใช้นี่รับรองว่าแต่ละฝั่งคงเสียหายกว่านี้เป็นแน่แท้ครับ ผมกับพรรคพวกเลาะไปตามต้นไม้ข้างถนนเลียบคลองไปครึ่งทางก่อนถึงแนวเผชิญหน้า เพื่อมองดูไฟที่กำลังไหม้รถอยู่ .... ทางฝั่งผู้ประท้วงมีเสียงก่นด่าทางตำรวจที่ออกมาเผารถเพิ่มเติมอยู่ตลอด .. พี่คนหนึ่งแอบล้อกึ่งเตือนความจำผมเล่นตอนถ่ายรูปว่า ระวังแฟลช์นะครับ เดี๋ยวโดนพี่เขาสอยเอา .... ถึงแม้ผมเปิดแฟลช์ไปก็คงไม่เห็นอะไรเท่าไหร่ครับ แต่แค่ครึ่งทางก็พอมองเห็นแถวแนวหน้าและควันไฟละครับ .... แต่ผมเองก็ไม่เห็นตำรวจนะครับ (เชื่อว่าไม่เห็นคงจะดีกว่าครับ ... ถ้าเห็นคงต้องโดนอะไรเข้าหน้าผากเป็นแน่แท้ครับ) จากตรงนี้ผมเห็นทางฝั่งผู้ประท้วงยิงผลุเข้าไปในแนวกั้น เข้าเป้าบ้างไม่เข้าเป้าบ้าง ก็ตามแต่ฝีมือการเล็งผลุของแต่ละคนครับ .... แต่เสียงนี่คล้ายๆกับเสียงที่ได้ยินในข่าว CNN เวลาอเมริกาบุกอีรัก หรือสงครามกลางเมืองซีเรียเลยครับ จากตรงแนวไม้ครึ่งทาง ผมเลยหันกลับไปถ่ายรูปตรงที่เป็นจุดตั้งรับก่อนจะเข้าโซนรุกคืบ (ต่อจากโซนรุกคืบคือ Dead Zone ระหว่างผู้ประท้วงกับแนวกันปูนที่มีไฟไหม้อยู่้ตอนผมไปครับ) แสงแถวนั้นน้อยถึงน้อยมาก (ไม่แน่ใจว่าจงใจยิงดวงไฟทิ้งเพื่อพรางตัวในความมืดหรือเปล่านะครับ แต่มืดก็ปลอดภัยกว่าครับ) ส่วนที่ผมถ่ายรถไฟไหม้นั้นภาพมันมืดจนไม่เห็นอะไรเลยครับ พยายามดึงความสว่างขึ้นแต่ก็ไม่เห็นดีเทลอะไรเพิ่มเติมครับ ระหว่างที่อยู่ทั้งคืนจนกระทั่งผมขอชิ่งกลับเพราะกลัวว่ารถตอนเช้าจะติดเสียก่อน ก็พอเข้าใจว่าทางฝั่งผู้ประท้วงเองต้องการยันให้พระอาทิตย์ขึ้นเพื่อเข้ารุกด้วยจำนวนคนกันอีกรอบครับ .... พอกลับมาถึงบ้านก็เปิดข่าวดู ก็เห็นว่าเริ่มตีกันจริงจังกว่าตอนผมอยู่มากครับ เพราะตอนผมอยู่จะมีเสียงยิงกันตลอดก็จริง แต่ไม่มีแบบเต็มอัตราศึกทั้งฝั่งตำรวจที่ยิงแก๊สออกมาจำนวนมากและฝั่งผู้ประท้วงที่บุกเป็นคลื่นต่อคลื่นต่อคลื่นครับ แต่ดูแล้วเหมือนสงครามกลางเมืองย่อมๆทีเดียวครับ .... ไม่คิดว่าจะมาเกิดกันในประเทศไทยครับ หวังว่าทั้งหมดจะจบลงเร็วๆวันนี้ และไม่มีใครต้องเจ็บตัวไปมากกว่านี้ครับ
Posted on: Tue, 03 Dec 2013 09:43:16 +0000
Trending Topics
Recently Viewed Topics
© 2015